แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าภริยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตไว้ในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุ และภริยาโจทก์ได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยต่อสู้ว่า ภริยาโจทก์ตายเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกวางแผนนำงูพิษมาให้กัดภริยาโจทก์ หรือนำภริยาโจทก์ไปให้งูพิษกัดตาย ดังนี้ เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่าภริยา โจทก์ไม่ได้ตายเพราะถูกงูกัดเอง คือ ไม่เป็นอุบัติเหตุนั่นเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่า นางจบ จันทศรี ภริยาโจทก์ได้ทำสัญญาประกันภัย (ชีวิต) ไว้กับจำเลยแบบสะสมทรัพย์อย่างธรรมดาในจำนวนเงิน 100,000 บาท และต่อมาขอเพิ่มประกันภัยแบบอุบัติเหตุมรณะเป็นจำนวนเงินอีก 20,000 บาท โดยกำหนดให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ต่อมานางจบ จันทศรี วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด โจทก์ขอให้จำเลยจ่ายเงินตามสัญญา จำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์กับพวกได้สมคบกันนำงูพิษมากัดนางจบ จันทศรี หรือนำนางจบ จันทศรีไปให้งูพิษกัดนางจบ จันทศรี จึงวายชนม์ลงเพราะพิษงู โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นชี้สองสถาน กำหนดหน้าที่นำสืบตกโจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน โจทก์แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่า โจทก์มีแผนการเอางูให้กัดนางจบโดยหวังเงินประกัน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า หน้าที่นำสืบควรตกจำเลยสืบก่อน และว่าพยานหลักฐานจำเลยไม่น่าเชื่อเป็นความจริง
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวอ้างว่า นางจบภรรยาโจทก์ได้เอาประกันชีวิตในกรณีตายเพราะอุบัติเหตุ นางจบได้วายชนม์ลงโดยอุบัติเหตุถูกงูพิษกัด จำเลยให้การต่อสู้ว่านางจบตายจริงเนื่องจากถูกโจทก์กับพวกสมคบกันวางแผนการนำงูพิษมาให้กัดนางจบ หรือนำนางจบไปให้งูพิษกัดตาย เท่ากับจำเลยปฏิเสธว่านางจบไม่ได้ตายเพราะถูกงูกัดเอง เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ โจทก์ก็ต้องนำสืบก่อน ดังที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อน จึงชอบแล้ว
เมื่อโจทก์สืบไม่สมว่านางจบได้ถูกงูกัดโดยอุบัติเหตุดังโจทก์ฟ้องแล้ว โจทก์ก็ไม่มีทางชนะคดี พิพากษายืน