แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมีหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมเป็นรายได้รัฐบาลโดยขายบัตรให้แก่ผู้ใช้ทางหลวงสายพหลโยธินที่ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิตจำเลยได้นำบัตรของด่านรังสิตที่ใช้แล้วมาหมุนเวียนขายให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์ซึ่งผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิตแล้วยักยอกเอาเงินค่าธรรมเนียมขายบัตรนั้นเป็นประโยชน์ของตนเสียย่อมผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ผิดตามมาตรา 353
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับราชการกรมทางหลวงแผ่นดิน มีหน้าที่เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมเป็นรายได้รัฐบาล โดยขายบัตรให้แก่ผู้ใช้ทางหลวงสายพหลโยธินที่ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิตจำเลยกับพวกกระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต ใช้อำนาจหน้าที่หาประโยชน์อันมิควรได้ไว้เป็นประโยชน์ของตนเอง โดยจำเลยนำบัตร 2 ฉบับของด่านรังสิตที่ใช้แล้วมาหมุนเวียนขายให้แก่นายทองหล่อและนายจำรัสผู้ใช้ยานยนต์ซึ่งป่านประตูน้ำพระอินทร์ไปยังด่านรังสิต แล้วยักยอกเอาเงินค่าธรรมเนียมขายบัตร 30 บาทเป็นประโยชน์ของตนและผู้อื่นขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353, 83, 86 ฯลฯ และให้คืนหรือใช้เงิน 30 บาทแก่รัฐบาลด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กระทำผิดจริงตามฟ้องพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำคุก 3 เดือนและให้คืนหรือใช้เงิน 30 บาทแก่รัฐบาล
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า หลักฐานพยานโจทก์ยังไม่พอที่จะเชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยเป็นผู้ขายบัตรของกลางสองฉบับตามฟ้อง แล้วยักยอกเอาเงินเป็นของตนเสีย จำเลยจึงมีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ไม่ใช่มาตรา 353 ดังที่ศาลชั้นต้นยกขึ้นปรับบท พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352