แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ช. กับพวกร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าการเลือกตั้งได้กระทำไปโดยชอบแล้ว เว้นแต่ผู้สมัครซึ่งได้รับเลือกตั้งอันดับที่ 18 นั้นได้รับเลือกตั้งโดยมิชอบ คดีถึงที่สุด อ. ยื่นคำร้องว่าตนเองเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย ขอให้แก้ไขคำสั่งที่ผิดพลาดเล็กน้อยในคดีนี้ และสั่งเลื่อนอันดับของ อ.ผู้ร้องเป็นอันดับที่18ดังนี้เมื่ออ. ผู้ร้องมิได้เป็นผู้ยื่นคำร้องคัดค้านหรือถูกคัดค้านการเลือกตั้ง จึงมิใช่คู่ความในคดี ไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้แก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยในคำสั่งของศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143
ย่อยาว
อ. มิใช่คู่ความในคดีซึ่งมีผู้ร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลอ. ยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุบลราชธานีได้หมายเลข 4 และเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีนี้ ได้ตรวจนับคะแนนของทุกคนและทุกหน่วยแล้ว ปรากฏว่าผลคะแนนในคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้รวบรวม 54 คน นั้นยังคลาดเคลื่อนอยู่ 3 คน ขอให้แก้ไขคำสั่งที่ผิดพลาดเล็กน้อย และสั่งเลื่อนอันดับของผู้ร้องจากอันดับที่ 20 เป็นอันดับที่ 18 ศาลชั้นต้นได้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1 บัญญัติว่า “ถ้าในคำพิพากษาหรือคำสั่งใด มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ และมิได้มีการอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น เมื่อศาลที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งนั้นเห็นสมควร หรือเมื่อคู่ความที่เกี่ยวข้องร้องขอ ศาลจะมีคำสั่งเพิ่มเติมแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเช่นว่านั้นได้ถูกก็ได้ฯ” ผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่มิได้เป็นผู้ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งหรือเป็นผู้ถูกคัดค้านการเลือกตั้ง จึงมิใช่เป็นคู่ความในคดี ดังนั้นผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้แก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยในคำสั่งของศาลได้”
พิพากษายืน