แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายขี่รถจักรยานสามล้อผ่านหน้าบ้านจำเลย จำเลยซึ่งกำลังถือมีดเหน็บเตรียมจะผ่ามะพร้าวอยู่ที่ชานบ้านได้กระโดดเข้าแทงผู้เสียหายถูกที่สีข้างด้านซ้าย ลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ผู้เสียหายกับจำเลยไม่เคยโกรธเคืองกันมาก่อนเพียงแต่น้องของผู้เสียหายเคยทะเลาะกับบุตรของจำเลย เป็นเหตุให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเฉยเมยต่อกันเท่านั้น และเป็นเรื่องตั้งแต่ก่อนที่ผู้เสียหายจะมาอยู่ มีดที่จำเลยใช้ทำร้ายก็เป็นมีดที่จำเลยจะใช้ผ่ามะพร้าว และบาดแผลของผู้เสียหายไม่ฉกรรจ์ แม้ว่าจำเลยจะฟันผู้เสียหายซ้ำอีกแต่ผู้เสียหายหลบทันและยังวิ่งไล่ตามเมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีก็เป็นเหตุเกิดโดยกระทันหัน ไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดเป็นอาวุธแทงและฟันผู้เสียหายหลายครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายหลบหลีกทำให้จำเลยแทงและฟันไม่ถนัด การกระทำจึงไม่บรรลุผล เพียงแต่ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 295
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ของจำเลยที่แทงผู้เสียหายกับได้วิ่งไล่ตามผู้เสียหายประกอบกันแล้ว เชื่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80ให้จำคุก 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สาเหตุที่ผู้เสียหายกับจำเลยไม่ถูกอันมิใช่สาเหตุรุนแรงนักมีดที่จำเลยใช้เป็นมีดเหน็บ บาดแผลของผู้เสียหายก็ไม่ฉกรรจ์ พฤติการณ์ของจำเลยถือได้ว่า จำเลยมีเจตนาทำร้ายเท่านั้น พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ให้จำคุก 1 ปี
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า สถานที่เกิดเหตุคือที่ธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขากาญจนบุรี ซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงิน อันตั้งอยู่จังหวัดกาญจนบุรี คดีต้องชำระที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี จึงไม่รับฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรีให้โจทก์ที่กรุงเทพมหานคร โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีโจทก์ที่ธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ธนาคารดังกล่าวเรียกเก็บเงินจากธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขากาญจนบุรี ธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขากาญจนบุรีปฏิเสธการจ่ายเงิน มีปัญหาว่าความผิดได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานครด้วยหรือไม่ ศาลฎีกาปรึกษาโดยที่ประชุมใหญ่แล้วเห็นว่า ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นความผิดเกิดขึ้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค สถานที่ตั้งของธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินจึงเป็นสถานที่ที่ความผิดเกิดขึ้น กรณีนี้ธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สาขากาญจนบุรี ซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินตั้งอยู่จังหวัดกาญจนบุรี ต้องถือว่าเหตุเกิดในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี หาใช่เกิดขึ้น ณ สถานที่ที่เขียนเช็คและสถานที่ตั้งธนาคารที่โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีและสถานที่ตั้งธนาคารที่ปฏิเสธการจ่ายเงินเกี่ยวเนื่องกันหลายท้องที่ดังที่โจทก์ฎีกาไม่ แม้ธนาคารไทยพัฒนาจำกัดสำนักงานใหญ่และสาขากาญจนบุรีเป็นของเจ้าของเดียวกันก็ตาม ธนาคารไทยพัฒนาจำกัด สำนักงานใหญ่ หาได้เป็นผู้จ่ายเงินตามเช็คให้โจทก์ไม่ เพียงแต่เป็นตัวแทนโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็คให้เท่านั้น เมื่อธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขากาญจนบุรีซึ่งปฏิเสธการจ่ายเงินอยู่จังหวัดกาญจนบุรี เหตุจึงเกิดในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี ถือไม่ได้ว่าความผิดเกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานครด้วย
พิพากษายืน