แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ชายตลิ่งเป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเมื่อไม่อยู่หน้าที่ดินโจทก์ แม้โจทก์จะได้ครอบครองทำกินมาก่อนจำเลยโจทก์ก็ไม่มีสิทธิขอให้ขับไล่จำเลยเพื่อโจทก์จะเข้ายึดถือเพื่อตน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยสองสามีภริยาโดยอ้างว่า ที่พิพาทเป็นที่ลาดหน้าตลิ่ง ซึ่งโจทก์ครอบครองมา เดิมจำเลยเคยเช่าจากโจทก์แล้วเลิกเช่า ต่อมาจำเลยได้บุกรุกเข้าแย่งสิทธิครอบครองทำให้โจทก์เสียหาย
จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นที่สาธารณะ โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครอง จำเลยได้ยึดถือครอบครองมาประมาณ 20 ปี ไม่ได้บุกรุกและไม่เคยเช่าจากโจทก์
คู่ความรับกันว่า ที่พิพาทเป็นที่ชายตลิ่งน้ำท่วมถึงในฤดูน้ำอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาโจทก์ถือสิทธิครอบครองมาก่อนจำเลย จำเลยเข้าอยู่โดยอาศัยสัญญาเช่ากับโจทก์ แต่เลิกเช่ามา 3 ปีแล้ว ที่จำเลยเช่าเพราะเข้าใจว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ เมื่อทราบว่าเป็นที่สาธารณะจำเลยจึงบอกเลิกการเช่า ขณะนี้จำเลยไม่ได้ครอบครองที่พิพาทโดยอาศัยอำนาจของโจทก์แล้วคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโจทก์ไม่มีสิทธิครอบครอง จะขอให้ขับไล่จำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นที่ชายตลิ่งริมลำน้ำเจ้าพระยาน้ำท่วมถึงในฤดูน้ำและไม่ติดกับที่ของโจทก์ โดยมีทางสาธารณะคั่นจึงเป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) ฉะนั้นแม้โจทก์จะได้ครอบครองทำกินในที่พิพาทมาก่อนจำเลย โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยเพื่อโจทก์จะได้เข้ายึดถือที่พิพาทเพื่อตนโดยไม่ยอมให้สาธารณชนเข้าใช้สอยด้วยได้
พิพากษายืน