แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก โจทก์ยื่นคำร้องว่าทนายป่วยมาศาลไม่ได้พร้อมทั้งส่งใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานปรากฏว่าโจทก์มิได้ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานไว้ และวันสืบพยานนั้นตัวโจทก์เดินทางไปต่างจังหวัดศาลสอบถามจำเลย จำเลยแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรตามพฤติการณ์ทั้งหมดนี้ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนสืบพยานโจทก์และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบ โจทก์ได้ยื่นคำร้องชี้แจงเหตุผลในการที่โจทก์มีความจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการสืบพยาน ขอให้ศาลนัดไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์เข้าสืบเช่นนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้แล้วโจทก์อุทธรณ์ฎีกาได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการจดทะเบียนและห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าซึ่งมีคำว่า “AIWA (ไอวา)” โดยอ้างว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยได้จดทะเบียนการค้าโดยสุจริต
วันชี้สองสถาน ศาลให้โจทก์นำสืบก่อน
ถึงวันสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องว่าทนายโจทก์ป่วยมาศาลไม่ได้ ขอเลื่อนจำเลยแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
ศาลมีคำสั่งว่า โจทก์ไม่มีพยานมาศาลเลย โจทก์ไม่ได้ขอหมายเรียกพยานและมิได้นำพยานมา การขอเลื่อนเช่นนี้เป็นการประวิงความไม่อนุญาตให้เลื่อน และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ และให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลย
ถึงวันสืบพยานจำเลย จำเลยแถลงว่าไม่ติดใจจะทำการสืบพยาน
ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ไม่ได้ประวิงความ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ขอเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ไปนั้น พอจะถือได้หรือไม่ว่าโจทก์ประวิง เพื่อให้การพิจารณาล่าช้าอันจะเป็นเหตุให้ศาลต้องสั่งงดสืบพยานโจทก์ จำเลยฎีกามาว่าการที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนโดยอ้างว่าทนายโจทก์ป่วยในวันนัดสืบพยานนั้น โจทก์มิได้เตรียมขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานไว้ และวันนั้นตัวโจทก์เองก็เดินทางไปต่างจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ ย่อมแสดงว่าทนายโจทก์ตั้งใจจะป่วยในวันนัดสืบพยาน ในข้อนี้เห็นว่าเมื่อโจทก์ยื่นคำร้องว่า ทนายโจทก์ป่วยพร้อมทั้งส่งใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานจำเลยก็มิได้คัดค้าน กลับแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร จำเลยเพิ่งจะมาอ้างเอาในตอนหลังว่าทนายโจทก์ไม่ป่วย และที่จำเลยอ้างว่าตัวโจทก์เดินทางไปในต่างจังหวัดซึ่งดูประหนึ่งว่าทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าทนายโจทก์จะป่วย ในวันนัดสืบพยานนั้นตามคำร้องของโจทก์ก็ได้กล่าวไว้ว่า ตัวโจทก์ได้พบทนายโจทก์ป่วยอยู่ก่อนวันนัดสืบพยานพฤติการณ์ทั้งหมดยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์แกล้งประวิงคดีให้ล่าช้า
จำเลยฎีกามาอีกข้อหนึ่งว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานนำสืบนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา และโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านไว้เพื่ออุทธรณ์และฎีกาต่อไปในข้อนี้ปรากฏว่าหลังจากศาลมีคำสั่งแล้วโจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องลงวันที่ 9 มีนาคม 2509 ชี้แจงเหตุผลในการที่โจทก์มีความจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการสืบพยาน ขอให้ศาลนัดไต่สวนและมีคำสั่งให้โจทก์เข้าสืบ กรณีจึงถือได้เท่ากับว่าโจทก์ได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นไว้แล้ว โจทก์จึงอุทธรณ์ฎีกาได้
ฎีกาของจำเลยทุกข้อดังที่วินิจฉัยมา ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงพร้อมกันพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นศาลฎีกานี้ให้ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่