แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อรอการวินิจฉัยของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินตาม พระราชบัญญัติจัดสรรที่ดินโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อคณะกรรมการดังกล่าววินิจฉัยแล้ว เมื่อใดถ้าโจทก์ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ให้มาร้องให้ศาลทราบภายใน 1 เดือนนับแต่คณะกรรมการได้มีคำสั่ง เช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จะอุทธรณ์คำสั่งไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่ให้จำเลยออกจากที่โดยอ้างว่าเป็นที่ของโจทก์และเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์แล้วต่อมาประธานกรรมการจัดสรรที่ดินเพื่อความเป็นธรรมแก่สังคมได้รายงานต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยไปร้องทุกข์เรื่องที่ดินที่โจทก์ฟ้องคณะกรรมการกำลังสอบสวน จึงแจ้งมาให้ศาลทราบตาม มาตรา 9 วรรค 2 แห่ง พระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อความเป็นธรรมแก่สังคม พ.ศ. 2497เมื่อได้จัดการเสร็จจะรายงานมาให้ศาลทราบ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวและกำหนดว่าเมื่อคณะกรรมการวินิจฉัยแล้วโจทก์ยังประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปก็ให้โจทก์แถลงต่อศาลภายใน 1 เดือนนับ ตั้งแต่วันที่คณะกรรมการได้มีคำสั่งในเรื่องที่ดินแปลงนี้แล้ว
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอ้างว่า เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์อีก ศาลอุทธรณ์สั่งยืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาสั่งยืนตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ ว่า คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวมาเป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณาต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226