คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยรับเสื่อจากผู้เสียหายไปขายคิดราคาเป็นเงิน440 บาท เมื่อขายได้แล้วจำเลยจะต้องนำเงิน 440 บาทไปชำระให้แก่ผู้เสียหาย จึงเป็นเรื่องมอบเสื่อให้จำเลยไปขายโดยประสงค์ได้รับเงินราคาเสื่อ มิใช่มอบให้จำเลยเป็นตัวแทนไปขายเสื่อของผู้เสียหาย จำเลยจึงมิใช่เป็นผู้ครอบครองเงินที่ขายได้แทนผู้เสียหาย เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าเสื่อ จึงเป็นเรื่องผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ในทางแพ่งไม่ผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีคงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352ฐานยักยอกทรัพย์หรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้เสียหายมอบของให้จำเลยไปขายอย่างเป็นของจำเลย มิใช่เป็นการมอบให้ขายแทนผู้เสียหายในลักษณะตัวแทน ดังนั้นเงินที่ขายของได้จึงตกเป็นของจำเลย จำเลยเป็นแต่เพียงลูกหนี้ที่จะต้องชำระเงินค่าของให้แก่ผู้เสียหาย เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้จึงเป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งนั้น โจทก์เห็นว่าข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏเช่นนั้นเพราะจำเลยให้การรับสารภาพ คดีไม่มีการสืบพยานข้อเท็จจริงจากคำฟ้องของโจทก์ชัดแจ้ง พอฟังลงโทษจำเลยได้ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์นั้นมีข้อความชัดแจ้งว่า จำเลยตกลงรับเสื่อจากผู้เสียหายไปขายคิดราคาเป็นเงิน 440 บาท เมื่อขายได้แล้วจำเลยจะต้องนำเงิน 440 บาทไปชำระให้แก่ผู้เสียหายดังนั้นจำเลยจึงย่อมมีสิทธิที่จะนำเสื่อไปขายเกินราคาหรือต่ำกว่าราคาที่ตกลงกันไว้ได้ตามแต่จำเลยจะเห็นสมควร เพียงแต่เมื่อขายได้เงินแล้วจะต้องนำเงิน 440 บาทไปชำระให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น กรณีจึงเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายมอบเสื่อให้จำเลยไปขายโดยประสงค์จะได้รับเงินราคาเสื่อ 440 บาท มิใช่มอบให้จำเลยเป็นตัวแทนไปขายเสื่อของผู้เสียหาย จำเลยจึงมิใช่เป็นผู้ครอบครองที่ขายได้แทนผู้เสียหาย เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าเสื่อแก่ผู้เสียหาย จึงเป็นเรื่องผิดสัญญาไม่ชำระหนี้ในทางแพ่ง”

พิพากษายืน

Share