แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การกระทำซึ่งจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 87 มี 2อย่างคือ ไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายภายในกำหนด และยื่นรายการค่าใช้จ่ายเท็จ คำฟ้องของโจทก์กล่าวหาว่า จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จประการเดียว เมื่อทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องแม้ตามคำแถลงรับของจำเลยนั้นแสดงว่าจำเลยมิได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินก็ตามแต่ก็ต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษศาลจึงลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2522 มาตรา 5
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 ลงโทษปรับ 2,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 34 บัญญัติว่า “ภายในกำหนดสามเดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครต้องยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ถูกต้องตามความเป็นจริงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งได้แก่ (1) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ได้จ่ายไปแล้ว(2) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยังค้างชำระ (3) หลักฐานการจ่ายเงินตาม (1) และหลักฐานการค้างชำระตาม (2) ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับหรือเจ้าหนี้ ฯลฯ” และมาตรา 87 บัญญัติว่า “ผู้สมัครผู้ใดไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายในกำหนดตามมาตรา 34หรือยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเท็จ ต้องระวางโทษ ฯลฯ” ดังนี้ การกระทำซึ่งจะเป็นความผิดตามมาตรา 87 นี้จึงมี 2 อย่าง คือ 1. ไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายภายในกำหนด 2. ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ ในเบื้องแรกจึงต้องพิจารณาก่อนว่าคดีนี้ โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดอย่างใดบ้าง ปรากฏว่าคำฟ้องตั้งชื่อฐานความผิดว่า “ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเท็จ”และตามคำบรรยายฟ้องจะเห็นได้ว่า ในตอนต้น โจทก์กล่าวว่าจำเลยได้บังอาจยื่นรายการไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง โดยยื่นรายการว่าได้ใช้จ่ายไปอย่างไรบ้าง แล้วโจทก์กล่าวย้ำอีกว่าเป็นความเท็จ ความจริงจำเลยมิได้จ่ายไปตามรายการที่แจ้งดังกล่าว แม้โจทก์จะบรรยายไว้ตอนท้ายด้วยว่า “จำเลยมิได้แจ้งแสดงเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินตลอดจนรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับหรือเจ้าหนี้ตามรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้นไว้ ให้ปรากฏเป็นหลักฐานแสดงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษตามที่กฎหมายบังคับ” แต่ข้อความดังกล่าวนี้ก็มีคำว่า “โดย” นำหน้า จึงเป็นเพียงการขยายความประโยคที่อยู่ข้างหน้าให้ทราบว่าที่โจทก์หาว่าจำเลยบังอาจยื่นรายการอันเป็นเท็จนั้นเพราะจำเลยละเว้นการกระทำอันใดเท่านั้น คำฟ้องเช่นนี้ต้องถือว่าโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเป็นเท็จประการเดียว เมื่อจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพ และตามคำแถลงรับข้อเท็จจริงดังรายละเอียดข้างต้นนั้นจำเลยก็มิได้ยอมรับว่ารายการค่าใช้จ่ายที่จำเลยยื่นนั้นเป็นเท็จ แล้วโจทก์ก็ไม่สืบพยานพิสูจน์ว่ารายการดังกล่าวเป็นเท็จ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง แม้ตามคำแถลงรับของจำเลยนั้นแสดงว่าจำเลยมิได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินซึ่งมีรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับภายในกำหนดสามเดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้งซึ่งอาจถือว่ามิได้ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายในกำหนด แต่ก็ต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ศาลจึงลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนี้ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2522 มาตรา 5″
พิพากษายืน