แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
หนังสือมีข้อความว่า โจทก์มอบให้จำเลยเป็นผู้มีอำนาจจัดการให้กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในฐานะตนเองและเป็นตัวแทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ เป็นเพียงเอกสารที่โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยมีอำนาจทำนิติกรรมแทนโจทก์เท่านั้น ไม่เป็นเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิ จึงไม่เป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) แม้จำเลยกรอกข้อความในหนังสือมอบอำนาจที่มีลายมือชื่อโจทก์โดยโจทก์ไม่ ยินยอม ก็ไม่มีความผิดตามมาตรา 265
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 ส่วนข้อหาอื่นเป็นอันยุติ
ปัญหาว่า หนังสือมอบอำนาจเป็นเอกสารสิทธิหรือไม่
ได้พิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) ได้ นิยามความหมายของคำว่า “เอกสารสิทธิ” ว่าหมายถึง เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ” หนังสือมอบอำนาจให้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้มีข้อความว่า “โจทก์มอบให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้มีอำนาจจัดการให้กรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในฐานะตนเองและเป็นตัวแทนอีกฝ่ายหนึ่งได้” ศาลฎีกาเห็นว่าหนังสือนี้เป็นเพียงเอกสารซึ่งโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยมีอำนาจทำนิติกรรมแทนโจทก์เท่านั้น ไม่เป็นเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการก่อตั้งสิทธิ จึงไม่ใช่เป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(9) เมื่อไม่เป็นเอกสารสิทธิฟ้องโจทก์จึงไม่ครบองค์ความผิดตามมาตรา 265 และมาตรา 268 ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน