คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3443/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถไม่ใช่แก้ไขคำฟ้องจึงไม่อยู่ในบังคับของ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 179,180 แต่อยู่ภายใต้บังคับของ มาตรา 56 คือศาล อาจสั่งให้แก้ไขเสียให้บริบูรณ์ก่อนมีคำพิพากษา สามีโจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลขอให้ความยินยอม และให้สัตยาบันการที่โจทก์ ได้ดำเนินคดีมาแต่ต้น โดยยื่นก่อนเริ่มลงมือสืบพยาน ถือว่า เป็นการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถถูกต้องแล้ว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาห้ามจำเลยขัดขวางในการที่โจทก์จะตั้งแผงลอยขายของตามเดิม จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ประเด็นข้อของจำเลยฎีกาว่าโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามีเป็นคำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ แม้สามีโจทก์ยื่นคำแถลงเข้ามาในภายหลังแต่ก็หลังจากชี้สองสถาน พ้นกำหนดเวลาแก้ฟ้องแล้ว ไม่มีผลทำให้คำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์กลับสมบูรณ์ตามกฎหมายประเด็นข้อนี้จำเลยเข้าใจข้อกฎหมายคลาดเคลื่อน เพราะการฟ้องคดีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี เป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถของตัวบุคคลผู้เป็นโจทก์ ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถไม่ใช่แก้ไขคำฟ้อง จึงไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติมาตรา 178, 180 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่อยู่ภายใต้บังคับมาตรา 56 ของประมวลกฎหมายดังกล่าว คือศาลอาจสั่งให้แก้ไขเสียให้บริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาอันสมควร แต่ทั้งนี้ต้องก่อนมีคำพิพากษา คดีนี้โจทก์ทราบถึงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถเอง จึงให้สามียื่นคำแถลงต่อศาลขอให้ความยินยอม และให้สัตยาบันการที่โจทก์ได้ดำเนินคดีมาแต่ต้น โดยยื่นก่อนเริ่มลงมือสืบพยาน ถือว่าเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 แล้ว”

พิพากษายืน

Share