แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยมิได้พิพาทเกี่ยวกับหนี้ตามสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยสัญญาตัวแทนเป็นมูลกรณี หากแต่เป็นเรื่องพิพาทระหว่างตัวการตัวแทนตามสัญญาตัวแทนโดยเฉพาะ แม้ไม่มีหลักฐานการตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ ก็รับฟังพยานบุคคลได้ ไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา798 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการนำสืบของโจทก์ก็ไม่ใช่นำสืบแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารอันเป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 268 หมู่ที่ 1 ตำบลอรัญญิก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ให้โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่มีหลักฐานการตั้งจำเลยเป็นตัวแทนซื้อที่พิพาทเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 คงมีแต่พยานบุคคล จึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยลงชื่อเป็นเจ้าของที่พิพาทแทนโจทก์ เพราะกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารโดยทำเป็นหนังสือมาแสดง และการนำสืบของโจทก์เป็นการสืบพยานบุคคลแทนพยานเอกสาร ต้องห้ามมิให้สืบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าคดีนี้ไม่ได้พิพาทเกี่ยวกับหนี้ตามสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยสัญญาตัวแทนเป็นมูลกรณี หากแต่เป็นเรื่องพิพาทระหว่างตัวการตัวแทนตามสัญญาตัวแทนโดยเฉพาะ แม้ไม่มีพยานหลักฐานการตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ ก็รับฟังพยานบุคคลได้ กรณีไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติมาตรา 798 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ตามที่จำเลยฎีกา และการนำสืบของโจทก์ก็ไม่นำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร อันเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เรื่องทำนองนี้ศาลฎีกาเคยพิพากษาไว้เป็นแบบอย่างแล้ว เป็นต้นว่าคำพิพากษาฎีกาที่ 495/2509 คดีระหว่างนางตั้ง แซ่อุ๋ย กับพวก โจทก์ นางเป๊กกั้วหรือบังอร คณีกุล กับพวก จำเลย คำพิพากษาฎีกาที่ 443/2510 คดีระหว่างสหธนาคารกรุงเทพ จำกัด โจทก์ ท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ กับพวกจำเลย”
พิพากษายืน