คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คู่ความยอมความกันชำระหนี้ และว่าถ้าผิดนัดให้ศาลพิพากษาให้ล้มละลายตามฟ้อง ดังนี้ แม้จำเลยผิดนัด ศาลก็พิพากษาให้ล้มละลายทันทีไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์จำเลยยอมความกันในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายว่าจำเลยยอมชำระหนี้ตามฟ้อง ถ้าผิดนัดยอมให้ศาลพิพากษาให้ล้มละลายทันที จำเลยผิดนัด ศาลชั้นต้นไม่สั่งให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาว่า ศาลจะพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้หรือไม่ เห็นว่าพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 บัญญัติว่า ในการพิจารณาคดีล้มละลายตามคำฟ้องของเจ้าหนี้นั้น ศาลจะต้องพิจารณาเอาความจริงตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 หรือมาตรา 10 ถ้าพิจารณาได้ความจริงให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แต่ถ้าไม่ได้ความจริงหรือลูกหนี้นำสืบได้ว่าอาจชำระหนี้ได้ทั้งหมด หรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลาย ให้ศาลยกฟ้องตามบทบัญญัติดังกล่าว แม้พิจารณาได้ความจริงว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวและเป็นหนี้โจทก์จำนวนแน่นอนไม่น้อยกว่าสามหมื่นบาท ศาลก็ยังจะพิพากษาให้จำเลยล้มละลายทันทีไม่ได้ จะต้องมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเสียก่อนแล้วจึงจะพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 61หาใช่ว่าจะต้องมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายตามสัญญาประนีประนอมยอมความเสียก่อนแล้วจึงให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการต่อไปดังโจทก์ฎีกาไม่ ดังนั้นศาลจะพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายตามสัญญาประนีประนอมไม่ได้”

พิพากษายืน

Share