คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยตามพินัยกรรมจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่ในชั้นฎีกาโจทก์เสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ ศาลฎีกาสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกคู่ความมาตีราคาทรัพย์พิพาท และให้เสียค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วน เมื่อโจทก์มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลมาวางศาลตามกำหนดถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยตามพินัยกรรมจึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ แต่ในชั้นฎีกาโจทก์เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ศาลฎีกาจึงสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกคู่ความมาตีราคาทรัพย์พิพาทแล้วให้ผู้ฎีกาเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นได้นัดโจทก์จำเลยมาพร้อมกันแล้วโจทก์จำเลยแถลงร่วมกันว่าทรัพย์พิพาทมีราคา 270,000 บาท โจทก์จะนำเงินค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกามาวางศาลให้ครบถ้วนภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ 25 เมษายน 2526 แต่ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนด 1 เดือนแล้วโจทก์มิได้นำเงินค่าขึ้นศาลดังกล่าวมาวางศาลแต่อย่างใด ดังปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 25 เมษายน 2526และรายงานเจ้าหน้าที่ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2526 ดังนี้จึงถือได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) จึงสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา

Share