คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จะรอฟังคดีอาญาหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลไม่จำเป็นต้องรอฟังเสมอไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นสามีภริยากัน ได้กู้ยืมเงินโจทก์และค้ำประกันหลายครั้ง รวมเป็นเงินที่ค้างอยู่ทั้งสิ้น 53,750 บาท จำเลยไม่มีทรัพย์อะไรอีก นอกจากเงินเดือนถือว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ให้กองทรัพย์สินจำเลยใช้เงินแก่โจทก์ แล้วมีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองเป็นบุคคลล้มละลาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาด ฯลฯ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาว่าศาลควรจะรอฟังคดีอาญาที่จำเลยฟ้องโจทก์เรื่องปลอมเอกสารการกู้รายนี้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ตามสำนวนคดีดำที่ 1133/2508 จึงจะชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การจะรอฟังคดีอาญาหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาล ไม่จำเป็นต้องรอฟังเสมอไป ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน

พิพากษายืน

Share