คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1194/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดแล้วพิพากษายกฟ้อง เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์ภายในกำหนดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 แต่กลับยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วไม่อนุญาต โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ โจทก์จะฎีกาอ้างว่าที่ศาลพิพากษาว่าโจทก์ขาดนัดนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 หาได้ไม่ เพราะคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ว่าโจทก์ขาดนัดชอบหรือไม่เป็น อันยุติแล้ว

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จในคดีอาญาซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177, 181(2)

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งว่าคดีโจทก์พอมีมูลตามข้อหาให้ประทับฟ้อง หมายเรียกจำเลยมาแก้คดี

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2509 เวลา 9.00 น.

ครั้นถึงวันนัดเวลา 10.00 น. โจทก์ไม่มาศาล คงมีแต่ทนายโจทก์จำเลยและทนายจำเลยมาศาล ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2509 ว่า ทนายโจทก์แถลงว่า ตัวโจทก์ไม่มาศาล ไม่ทราบเพราะเหตุใด เข้าใจว่าคงป่วย ีพยานโจทก์มาศาล 4 ปากโจทก์ไม่มา จึงจำเป็นต้องขอเลื่อนคดีไป จำเลยแถลงว่าแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร

ศาลชั้นต้นสั่งว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด และไม่แสดงให้ศาลเห็นว่ามีเหตุสมควรจึงมาไม่ได้ ส่วนพยานโจทก์ที่มาเป็นเพียงพยานประกอบตัวโจทก์เท่านั้น จึงไม่ให้เลื่อน ให้ยกฟ้องของโจทก์เสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166

ครั้นวันรุ่งขึ้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2509 โจทก์ยื่นคำร้องว่า เหตุที่มาศาลไม่ได้ตามกำหนดเพราะป่วยเนื่องจากท้องเดิน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า โจทก์และพันเอกสอาด นายแพทย์ พยานโจทก์เบิกความแตกต่างขัดกัน พฤติการณ์ของโจทก์แสดงว่าโจทก์ไม่มั่นใจในการดำเนินคดี การที่มาศาลไม่ได้จึงปราศจากเหตุอันควร ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดนั้นไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 166

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัด และไม่อนุญาตให้โจทก์เลื่อนการพิจารณาเพื่อสืบพยานแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น โจทก์หาได้อุทธรณ์อย่างใดไม่ โจทก์กลับยื่นคำร้องลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2509 ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีโจทก์ใหม่ ครั้นศาลชั้นต้นไต่สวนไม่อนุญาตให้พิจารณาใหม่ โจทก์จึงอุทธรณ์ ฎีกาคัดค้านขึ้นว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์ขาดนัดนั้นไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 พยาน ทนายโจทก์มาศาล ดังนี้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ว่าโจทก์ขาดนัดชอบหรือไม่จึงเป็นอันยุติแล้ว เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ภายในกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ฎีกาข้อกฎหมายของโจทก์ในข้อนี้ จึงต้องตกไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 210 และ 225

พิพากษายืน

Share