คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1085/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายมีขวานและมีดขอเป็นอาวุธ จำเลยมีมีดพกเป็นอาวุธได้เข้าต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกัน โดยต่างไม่มีเวลาที่จะเลือกแทงเลือกฟันในที่สำคัญ ทั้งสองคนมีบาดแผลรวม 7 แห่งด้วยกัน ผู้ตายเสียโลหิตมากจึงถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา ไม่ใช่ฐานฆ่าคนโดยเจตนา
ฟ้องว่าจำเลยฆ่าคนโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยฆ่าคนโดยไม่เจตนาศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 ได้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันใช้มีดปลายแหลมแทงผู้ตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 15 ปี ลดโทษหนึ่งในสามตามมาตรา 78 จำคุก 10 ปียกฟ้องจำเลยที่ 2

โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 และผู้ตายได้เข้าต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันโดยต่างไม่มีเวลาที่จะเลือกแทงฟันในที่สำคัญ และต่างมีบาดแผล 7 แห่งด้วยกัน ผู้ตายเสียโลหิตมากจึงถึงแก่ความตาย ขณะทำร้ายกันผู้ตายมีขวานด้ามยาวศอกเศษและมีดขอทั้งตัวและด้ามยาว2 ศอกเป็นอาวุธ จำเลยที่ 1 มีมีดพกยาวคืบเศษ การกระทำของจำเลยที่ 1จึงผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนโดยเจตนา ทางพิจารณาฟังว่าจำเลยทำให้คนตายโดยไม่เจตนา แม้จะเนื่องจากกรณีวิวาทก็ไม่ใช่ทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ศาลลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ได้

พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 จำคุก 9 ปี ลดโทษตามมาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 6 ปี

Share