คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ต้นฉบับเอกสารอันแท้จริงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่ส่วนข้อความในเอกสารจะถูกต้องตรงกับความจริงหรือไม่ เป็นข้อที่ศาลจะได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนอีกชั้นหนึ่ง
ข้อความในเอกสารซึ่งแสดงว่าบริษัทโจทก์มีสิทธิและหน้าที่ทำนิติกรรมมอบอำนาจได้ในนามของบริษัทโจทก์ โดยทำต่อเจ้าหน้าที่เป็นทางการ เป็นการเพียงพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์มีฐานะที่จะฟ้องคดีได้ในนามของตนเอง
การพิสูจน์ฐานะบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ไม่จำต้องพิสูจน์โดยวิจักขณ์พยานผู้รู้กฎหมายต่างประเทศโดยตรงแต่ทางเดียวพฤติการณ์ต่างๆ ที่แสดงถึงการมีฐานะใช้สิทธิได้ตามกฎหมายดุจบุคคลทั่วไป ก็เป็นข้อเท็จจริงให้ศาลวินิจฉัยเช่นนั้นได้
ตามคำฟ้องปรากฏว่า โจทก์ที่ 2 ฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงฟ้องคดีนี้เป็นส่วนตัวไม่ได้ แต่จะยกฟ้อง เลยไปถึงโจทก์ที่ 1 ที่ฟ้องโดยโจทก์ที่ 2 รับมอบอำนาจด้วยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า STATES ได้มอบให้โจทก์ที่ 2 ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นนายทะเบียนไม่รับจด โดยจำเลยนำเครื่องหมายการค้าเดียวกันไปยื่นขอจดทะเบียนไว้ก่อน ขอให้สั่งระงับหรือเพิกถอนคำขอจดทะเบียนของจำเลย และห้ามใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวอีกต่อไป

จำเลยให้การว่า โจทก์ที่ 1 ไม่ใช่นิติบุคคล ไม่มีอำนาจฟ้องโจทก์ที่ 2 เป็นตัวแทน ไม่มีอำนาจเข้าร่วมเป็นโจทก์ โจทก์ที่ 1 มิได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านี้ไม่มีสิทธิหวงหรือกีดกัน

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำขอจดทะเบียนของจำเลย และห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายดังกล่าวต่อไป

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การจำเลยว่าหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องไม่ถูกต้อง ไม่เป็นข้อต่อสู้ว่าใบมอบอำนาจที่โจทก์อ้างนั้น มิใช่ใบมอบอำนาจอันแท้จริงหรือเป็นใบมอบอำนาจปลอม โจทก์ส่งต้นฉบับใบมอบอำนาจต่อศาล จึงเป็นต้นฉบับเอกสารอันแท้จริงที่รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 122 ส่วนข้อความในเอกสารจะถูกต้องตรงกับความจริงหรือไม่เป็นข้อที่ศาลจะได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนต่อไปอีกชั้นหนึ่ง คดีนี้พยานหลักฐานของโจทก์ฟังได้ว่าเอกสารของโจทก์เป็นใบมอบอำนาจที่ถูกต้อง เป็นความจริงตามข้อความในใบมอบอำนาจนั้น เป็นการเพียงพอที่จะฟังได้ว่า โจทก์ที่ 1 มีฐานะที่จะฟ้องคดีได้ในนามของตนเองการพิสูจน์ฐานะบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศไม่จำต้องพิสูจน์โดยวิจักขณพยานผู้รู้กฎหมายต่างประเทศโดยตรงแต่ทางเดียวว่าโจทก์เป็นนิติบุคคล พฤติการณ์ต่าง ๆ ที่แสดงว่าโจทก์มีฐานะใช้สิทธิได้ตามกฎหมายดุจบุคคลทั่วไป ก็เป็นข้อเท็จจริงให้ศาลวินิจฉัยเช่นนั้นได้ และศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องคดีนี้โจทก์ที่ 2 ฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงฟ้องคดีนี้เป็นส่วนตัวไม่ได้ และฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ใช้เครื่องหมายนี้มานานจำเลยไม่มีสิทธิดีกว่าโจทก์

พิพากษาแก้ เฉพาะให้ยกฟ้องโจทก์ที่ 2

Share