แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ระบุในคำร้องขอให้นับโทษต่อจากคดีหมายเลขแดงดังกล่าวโดยมิได้ระบุว่าหมายเลขคดีแดงดังกล่าวนั้นตรงกับหมายเลขคดีดำที่เท่าใด คดีหมายเลขแดงตามคำร้องจะตรงกับคดีหมายเลขดำตามคำขอท้ายฟ้องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อหรือไม่นั้นจึงเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องนำสืบ แม้คดีดังกล่าวจะอยู่ในศาลเดียวกันก็มิใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลจะทราบได้เอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งรับราชการเป็นครูกระทำอนาจารเด็กหญิง ว. อายุ12 ปี ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ด้วยการใช้กำลังประทุษร้ายและขู่เข็ญ จำเลยเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 321/2522 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 322/2522 ของศาลจังหวัดนครพนม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279, 285 ฯลฯ และนับโทษต่อจากโทษในคดีดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าจำเลยเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ก่อนศาลชั้นต้นจะพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1081/2522 ของศาลจังหวัดนครพนมซึ่งศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ขอให้นับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 279 วรรคแรก ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 9 ลงวันที่ 21พฤศจิกายน 2514 จำคุก 6 เดือน ให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1088/2522 คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ให้นับโทษต่อจากคดีหมายเลขแดงที่ 1088/2522 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาขอให้นับโทษจำเลยต่อตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยอ้างว่าจำเลยได้แถลงรับแล้วว่าเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 321/2522 และ 322/2522 การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1081/2522 ของศาลชั้นต้น (แต่ศาลชั้นต้นนับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1088/2522) นั้น โดยที่คดีดังกล่าวอยู่ในศาลเดียวกันจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลสามารถทราบได้เอง ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีอาญาหมายเลขแดงดังกล่าวจะตรงกับคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อหรือไม่นั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องนำสืบ มิใช่ข้อเท็จจริงที่ศาลจะทราบได้เอง ศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่นับโทษต่อชอบแล้ว
พิพากษายืน