แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยห้ามโจทก์ไม่ให้เก็บมะพร้าวในที่ดินที่โจทก์ยกให้จำเลยโดยกล่าวว่า “ถ้ามึงเก็บมะพร้าวอีก กูจะเรียกตำรวจมาจับมึง” ต่อมาจำเลยพูดถึงโจทก์ โดยพูดกับคนอื่นว่า “กูไม่มีแม่ แม่กูตายโหงหมดแล้ว กูเกิดจากโพรงไม้ต้นโพธิ์ต้นหนึ่ง ปัจจุบันนี้ไม่มีอะไรแล้วเหลือแต่โด” เช่นนี้ เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงโจทก์ย่อมถอนคืนการให้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 531(2)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ยกที่ดินให้จำเลยซึ่งเป็นบุตรสองแปลง ต่อมาจำเลยห้ามมิให้โจทก์เข้าไปเก็บผลประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว เมื่อโจทก์ไม่เชื่อฟัง จำเลยได้ว่ากล่าวโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงและประพฤติเนรคุณโจทก์ได้บอกล้างนิติกรรม และบอกกล่าวถอนคืนการให้แล้วขอให้พิพากษาว่านิติกรรมการให้ที่ดินเป็นโมฆะ และให้จำเลยจดทะเบียนคืนที่ดินให้โจทก์
จำเลยให้การว่า ไม่เคยประพฤติเนรคุณโจทก์ ไม่เคยหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง การให้ที่ดินนี้เป็นการให้ที่มีค่าภารติดพัน โจทก์จะถอนคืนการให้ไม่ได้คดีของโจทก์ขาดอายุความคำฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
วันชี้สองสถาน คู่ความแถลงขอสละประเด็นข้อพิพาทอื่น คงเหลือประเด็นข้อพิพาทข้อเดียวว่า โจทก์ถอนคืนการให้ได้หรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเป็นยุติตามที่ศาลอุทธรณ์รับฟังว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยไม่มีค่าภารติดพัน ต่อมาโจทก์เก็บมะพร้าวในที่พิพาท จำเลยห้ามไม่ให้เก็บและพูดว่าถ้าเก็บจะพาตำรวจมาจับ ทั้งบอกนายทวีผู้ใหญ่บ้านให้ห้ามโจทก์ด้วย หลังจากนั้นจำเลยพูดกับชาวบ้านว่า หมาเห่าแล้วไม่กัด พูดกับนางนิดในงานศพว่า จำเลยไม่มีแม่ แม่ตายโหงแล้ว จำเลยเกิดจากโพรงไม้ และจำเลยรับกับโจทก์ว่าจำเลยเคยพูดว่าปัจจุบันนี้ต้นโพธิ์ต้นหนึ่งไม่มีอะไรแล้ว เหลือแต่โด ปัญหาว่าคำกล่าวของจำเลยเป็นหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงหรือทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงหรือไม่ พิเคราะห์แล้วการที่จำเลยห้ามโจทก์ไม่ให้เก็บมะพร้าว โดยกล่าวว่า “ถ้ามึงเก็บมะพร้าวอีกกูจะเรียกตำรวจมาจับมึง” ต่อมาจำเลยพูดถึงโจทก์โดยพูดกับคนอื่นว่า “หมาเห่าแล้วไม่กัด” “กูไม่มีแม่ แม่กูตายโหงหมดแล้ว กูเกิดจากโพรงไม้” “ต้นโพธิ์ต้นหนึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีอะไรแล้วเหลือแต่โด” ศาลฎีกาเห็นว่า เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์ย่อมถอนคืนการให้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2) ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าคำพูดดังกล่าวไม่ถึงขนาดที่จะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงและไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรงนั้น ยังไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษากลับ ให้ถอนคืนการให้ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เลขที่ 516/362 และ 518/362 ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย