คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมจำเลยทั้งสองค้างชำระค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์โจทก์ร่วม แล้วทำหนังสือรับสภาพหนี้และได้ออกเช็คพิพาทชำระหนี้นั้น ดังนี้ ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระนั้นจำเลยทั้งสองได้ชำระให้โจทก์ร่วมแล้วด้วยเช็คพิพาท ครั้นต่อมาจำเลยผิดนัดและโจทก์ร่วมบอกเลิกสัญญา โจทก์ร่วมจึงมีสิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่ได้มาแล้วแต่ก่อนเลิกสัญญาด้วยการออกเช็คพิพาทนี้ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 ดังนั้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นและออกเช็คโดยในขณะออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คได้ จำเลยทั้งสองย่อมมีความผิดตามฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจออกเช็คของธนาคารศรีนคร จำกัด สำนักงานใหญ่สั่งจ่ายเงิน 90,000 บาท ให้บริษัทอิตัลไทยอุตสาหกรรมจำกัด ผู้เสียหาย เพื่อเป็นการชำระหนี้ ผู้เสียหายได้นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ทั้งนี้ โดยจำเลยออกเช็คดังกล่าวโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

บริษัทอิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่ามูลหนี้ตามเช็คพิพาทเกิดจากค่าเช่าซื้อทรัพย์สินที่จำเลยค้างชำระโจทก์ร่วมอยู่ และจำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้โจทก์ร่วมไว้โจทก์ร่วมไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 โจทก์ร่วมจึงไม่อยู่ในฐานะจะนำเช็คพิพาทมากล่าวหาจำเลยในทางคดีอาญา พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เดิมจำเลยทั้งสองค้างชำระค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์โจทก์ร่วมแล้วทำหนังสือรับสภาพหนี้และได้ออกเช็คพิพาทชำระหนี้นั้นดังนี้ ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจำเลยทั้งสองได้ชำระให้โจทก์ร่วมแล้วด้วยเช็คพิพาทครั้นต่อมาจำเลยผิดนัดและโจทก์ร่วมบอกเลิกสัญญา โจทก์ร่วมจึงมีสิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่ได้มาแล้วแต่ก่อนเลิกสัญญาด้วยการออกเช็คพิพาทนี้ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 ดังนั้น เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คโดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น และออกเช็คโดยในขณะออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คได้ จำเลยทั้งสองย่อมมีความผิดตามฟ้อง

พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 (1) (2) ฯลฯ

Share