แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเดินมาคนเดียว ผู้ตายกับพวกหลายคนเข้าทำร้ายจำเลยผู้ตายรัดคอจำเลยจนจำเลยหายใจไม่ออก และพวกของผู้ตายก็แทงจำเลย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะนั้น เพื่อให้ตนเองพ้นภัยบังเอิญมีดถูกอกผู้ตาย ผู้ตายจึงถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงนายบุญมาก ธูปหอม1 ทีถูกที่หน้าอก เป็นเหตุให้นายบุญมากถึงแก่ความตายในคืนวันเกิดเหตุ โดยจำเลยมีเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
จำเลยให้การว่า จำเลยถูกผู้ตายกับพวกกลุ้มรุมทำร้าย จำเลยจึงแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 72 ลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี
จำเลยอุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่าจำเลยควรมีความผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า คืนวันเกิดเหตุผู้ตายท้าจำเลยต่อย จำเลยก็ไม่สู้ ต่อมาจำเลยเดินมาคนเดียว ผู้ตายกับพวกหลายคนเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยถูกผู้ตายรัดคอจะหายใจไม่ออกและถูกพวกผู้ตายแทงทำร้าย จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะนั้น เหตุที่จำเลยจำต้องใช้มีดแทงไปก็เพื่อป้องกันสิทธิหรือตัวของจำเลยเองให้พ้นจากภยันตรายที่ผู้ตายและพวกผู้ตายได้กระทำต่อจำเลย บังเอิญมีดไปถูกที่สำคัญเข้าทำให้ผู้ตายตาย จึงวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
พิพากษายืน