คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้ตายเคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อนแล้วแยกกันวันเกิดเหตุผู้ตายชักชวนจำเลยให้กลับไปอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามเดิมจำเลยไม่ยอมไป ผู้ตายก็เข้าจับมือจะฉุดลากเอาตัวไป การที่ผู้ตายจะเข้าฉุดลากเอาตัวจำเลยไป ผู้ตายไม่มีอำนาจจะกระทำเช่นนั้นได้ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำป้องกันตน แต่การที่จำเลยใช้มีดง้าว ตัวมีดยาว1 ศอก ด้ามยาว 1 ศอกเหวี่ยงไปมาเพื่อกันมิให้ผู้ตายเข้าจับตัวจำเลยถูกผู้ตายที่คอด้านหน้าข้างซ้ายลึกตัดกระดูกคอหลอดลม เส้นคอขาดถึงแก่ความตาย โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดง้าวฟันทำร้ายนายทิ้ง เชื้อชัง ด้วยเจตนาฆ่า ถูกที่คอด้านหน้าข้างซ้าย ลึกตัดหลอดลมลูกกระเดือกขาดถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ ริบมีดของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นขณะเกิดเหตุว่าใครเป็นคนทำให้ผู้ตายตาย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยใช้มีดง้าวฟันถูกคอหอยผู้ตายขาดด้วยเจตนาฆ่า และผู้ตายถึงแก่ความตาย แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ พิพากษากลับ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 69 จำคุก 3 ปีริบมีดของกลาง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายตายเพราะถูกจำเลยใช้มีดง้าวของกลางฟัน ปัญหาว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายหรือไม่ ในข้อนี้โจทก์ไม่มีพยานนำสืบ คงได้ความจากคำเบิกความของจำเลยเองว่า ผู้ตายชักชวนให้จำเลยไปอยู่กินเป็นสามีภรรยากันตามเดิม แต่จำเลยไม่ยอมไปผู้ตายก็เข้ามาจับข้อมือจะฉุดลากเอาตัวไป จำเลยจึงใช้มีดง้าวที่นำมาริดฟืนเหวี่ยงไปมาผู้ตายยังขืนเข้ามาจะจับจำเลย จึงถูกมีดง้าวนั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์บาดแผลเห็นว่า อยู่สูงถึงคอติดหูซ้ายลึกกระดูกคอขาด เป็นการกระทำรุนแรงมาก แม้ผู้ตายจะเข้ามาใช้กำลังฉุดลากเอาตัวจำเลยซึ่งผู้ตายไม่มีอำนาจจะกระทำเช่นนั้น จำเลยจึงมีสิทธิจะป้องกันขัดขวางได้ แต่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะผู้ตายไม่มีอาวุธ ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share