คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเงื้อมีดในขณะที่ยังอยู่ห่างผู้เสียหายในระยะที่จำเลยไม่อาจทำร้ายผู้เสียหายได้ และมีคนขวางอยู่ถึงสองคนก่อนที่จะถึงตัวผู้เสียหายลักษณะที่จำเลยเงื้อมีดขึ้นโดยไม่มีโอกาสฟันทำร้ายผู้เสียหายได้ เช่นนี้น่าจะเพียงเพื่อขู่ผู้เสียหายเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าถึงขั้นเจตนาจะฆ่า อันจะมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหาย 1 ที แต่ไม่บรรลุผลเนื่องจากผู้เสียหายหลบหลีกเสียทัน แล้วจำเลยยังถือมีดเงื้อง่าไล่ฟันผู้เสียหายอีก แต่มีผู้ขัดขวางและแย่งมีดไปจากจำเลย จำเลยถึงไม่สามารถฆ่าผู้เสียหายได้สมดังเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80และริบมีดของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า การกระทำของจำเลยเป็นเพียงขั้นเตรียมการ จำเลยยังไม่ได้ลงมือกระทำการซึ่งจะเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นดังฟ้อง พิพากษายกฟ้อง คืนมีดของกลางแก่เจ้าของ

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยทะเลาะกับผู้เสียหายแล้วจำเลยวิ่งไล่จะทำร้ายผู้เสียหายด้วยมือเปล่า ผู้เสียหายวิ่งหนีขึ้นไปบนเรือนนายมูลนางหมอก จำเลยตามขึ้นไปผู้เสียหายเข้าไปบังอยู่ข้างหลังนายมูล จำเลยจะชกผู้เสียหาย นางหมอกเข้าห้ามไว้ จำเลยหันไปคว้าเอามีดโต้ปลายตัดยาวทั้งตัวมีดและด้าม 1 ศอกเศษ วางอยู่บนร้านตั้งที่ใส่น้ำจะใช้ฟันผู้เสียหาย เมื่อจำเลยเข้าไปห่างผู้เสียหาย 3 ศอก และผู้เสียหายยังคงบังอยู่ข้างหลังนายมูล จำเลยยกมีดขึ้นแค่บ่าทำท่าจะฟันผู้เสียหาย นางหมอกเข้าจับมือจำเลยไว้ จำเลยก็ปล่อยมีด ผู้เสียหายหนีเข้าไปในห้องเรือนนายมูลแล้วปิดประตู จำเลยก็ลงเรือนไป ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาเห็นว่า ขณะที่จำเลยหยิบมีดโต้นั้น ผู้เสียหายบังอยู่ข้างหลังนายมูล เมื่อจำเลยอยู่ห่างจากผู้เสียหาย 3 ศอกและเงื้อมีดขึ้นเสมอบ่า นางหมอกซึ่งอยู่ข้างหน้านายมูลก็จับมือจำเลยไว้ มีดที่จำเลยเงื้อยังอยู่ห่างผู้เสียหายในระยะที่จำเลยไม่อาจทำร้ายผู้เสียหายได้ และมีนางหมอกนายมูลขวางอยู่ถึงสองคนก่อนที่จะถึงตัวผู้เสียหาย ลักษณะที่จำเลยเงื้อมีดขึ้นโดยไม่มีโอกาสฟันทำร้ายผู้เสียหายได้เช่นนี้น่าจะเพียงเพื่อขู่ผู้เสียหายเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าถึงขั้นเจตนาจะฆ่า อันจะมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นดังฟ้อง

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share