คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3860/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยพิพาทกันในเรื่องสิทธิครอบครองเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาทเมื่อคดียังไม่มีคำชี้ขาดของศาลว่าที่พิพาทอยู่ในสิทธิครอบครองของฝ่ายใดแล้ว การที่จะให้ฝ่ายจำเลยเข้าทำประโยชน์เหมืองแร่ในที่พิพาทตามที่อ้างว่าได้รับประทานบัตรมา ก็อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้ฝ่ายจำเลยเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาทไปก่อนคดีจะถึงที่สุด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินซึ่งได้ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่จำเลยได้บุกรุกรบกวนสิทธิครอบครองที่ดินของโจทก์และได้ไปยื่นคำขอประทาน.บัตรทำแร่ในที่ดินที่โจทก์ครอบครอง ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทให้ขับไล่จำเลยออกไปจากที่ดินพิพาท ห้ามเกี่ยวข้องรบกวนสิทธิครอบครองในที่ดินของโจทก์และให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า นับแต่วันที่จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาทจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเกินกว่า 1 ปี จำเลยจึงได้สิทธิครอบครองที่พิพาท เมื่อจำเลยขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ โจทก์ได้ร้องคัดค้าน กรมทรัพยากรธรณีแจ้งแก่โจทก์ว่าจำเลยเป็นผู้มีสิทธิในการทำเหมืองแร่ในที่ดินพิพาทโดยถูกต้อง และได้ให้จำเลยได้รับประทานบัตรแล้ว โจทก์จึงได้ฟ้องคดีนี้และยื่นคัดค้านขอให้ระงับการออกประทานบัตรแก่จำเลย ทำให้จำเลยเสียหาย ขอให้ยกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเป็นรายวันจนกว่าจำเลยจะเข้าดำเนินการทำเหมืองแร่ในที่ดินพิพาทได้

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยเคยฟ้องโจทก์แต่ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าโจทก์ครอบครองที่ดินอยู่ก่อน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นฟ้องซ้ำขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณาโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกระทำการใด ๆ ในที่ดินพิพาท

ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งห้ามชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งห้ามจำเลยมิให้เข้าไปกระทำการใด ๆ ในที่ดินพิพาท

หลังจากสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นสั่งห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยเข้าไปกระทำการใด ๆ ในที่ดินพิพาทนั้นอีกศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ห้ามจำเลยเข้ากระทำการใด ๆ ในที่พิพาทจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อคดียังไม่มีคำชี้ขาดของศาลว่าที่พิพาทอยู่ในสิทธิครอบครองของฝ่ายใดแล้ว การที่จะให้ฝ่ายจำเลยเข้าทำประโยชน์ทำเหมืองแร่ในที่พิพาทตามที่อ้างว่าได้รับประทานบัตรมา ก็อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ได้ ที่จำเลยอ้างว่า การที่จำเลยไม่อาจเข้าทำประโยชน์ ทำเหมืองแร่ในที่พิพาททำให้จำเลยและรัฐเสียหายเป็นอย่างมากนั้นคดีก็ได้ความว่าจำเลยได้ฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเป็นรายวันนับแต่วันที่กล่าวหาว่าโจทก์กระทำละเมิดต่อจำเลยอยู่แล้ว กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะให้ฝ่ายจำเลยเข้าทำประโยชน์ในที่พิพาทไปก่อนคดีจะถึงที่สุด

พิพากษายืน

Share