คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3455/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2523เวลา 9.00 น. เสมียนทนายจำเลยผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ และในวันนัดสืบพยานโจทก์เวลา 9.00 น. ปรากฏว่าทนายจำเลย มาศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเพื่อว่าความในคดีเรื่องอื่นหากทนายจำเลยซึ่งรู้ตระหนักถึงความสำคัญของผลคดีที่ขาดนัดพิจารณาทราบว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานในคดีนี้เวลา9.00 น. แล้ว จะต้องปลีกเวลาไปแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบถึงการติดว่าความในคดีอื่น หรือมิฉะนั้นก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนี้ จึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าทนายจำเลยทราบเวลานัดสืบพยานโจทก์คลาดเคลื่อนจากเวลา 9.00น. เป็นเวลา 13.30 น. จริงถือว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและมีเหตุอันสมควรให้พิจารณาคดีใหม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน5 น – 0278 ของจำเลยที่ 2 และในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 โดยประมาทชนรถโจทก์เสียหาย รวมค่าเสียหายเป็นเงิน 71,432 บาท โจทก์ขาดประโยชน์จากการใช้รถวันละ 500 บาท เวลา 60 วัน เป็นเงิน 30,000 บาท รถโจทก์เสื่อมราคาลงเป็นเงิน 50,000 บาท รวมค่าเสียหาย 151,432 บาท ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 11,365 บาท รวมค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสิ้น 162,787 บาท จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5 น – 0278 จากจำเลยที่ 2 ในลักษณะประกันภัยค้ำจุน โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสามชำระแล้ว จำเลยไม่ยอมชำระ จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์มิใช่เจ้าของและผู้ครอบครองรถยนต์หมายเลขทะเบียน 3 ก – 5606 ในขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 มิใช่ลูกจ้างและปฏิบัติหน้าที่ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ได้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 5 น – 0278 จากบุคคลผู้มีชื่ออื่น เหตุเกิดเพราะความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน 3 ก – 5606 ค่าเสียหายอย่างมากไม่เกิน 5,000 บาท ค่าเสื่อมราคาไม่เกิน 1,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นแห่งคดีให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2523 เวลา 9.00 น. ครั้นถึงวันนัด ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามและทนายมิได้มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณาและดำเนินการสืบพยานโจทก์จนเสร็จ แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสามแพ้คดีชำระเงินให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2523 จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องว่าจำเลยทั้งสามมิได้จงใจขาดนัด หากเกิดความเข้าใจผิดของเสมียนทนายซึ่งลงชื่อทราบวันและเวลานัดสืบพยานโจทก์ในวันชี้สองสถานเป็นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2523 เวลา 13.30 น. ฯลฯ

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์คดีนี้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2523 เวลา 9.00 น. นางสาวพรมิมลเสมียนทนายจำเลยทั้งสามผู้รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยได้ลงชื่อทราบวันนัดสืบพยานโจทก์และในวันนัดสืบพยานโจทก์เวลา 9.00 น. ปรากฏว่า ทนายจำเลยได้มาศาลชั้นต้นแห่งเดียวกันเพื่อว่าความคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4584/2521 หากทนายจำเลยซึ่งย่อมรู้ตระหนักถึงความสำคัญของผลคดีที่ขาดนัดพิจารณาทราบว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์คดีนี้เวลา 9.00 น. แล้ว จะต้องปลีกเวลาไปแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบถึงการติดว่าความคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 4584/2521 ของศาลชั้นต้น หรือมิฉะนั้นก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีนี้ ดังนี้จึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าทนายจำเลยทราบเวลานัดสืบพยานโจทก์คลาดเคลื่อนจากเวลา 9.00 น. ไปเป็นเวลา 13.30 น. จริง คำพิพากษาฎีกาที่1669/2517 ระหว่างธนาคารกรุงเทพ จำกัดฯ โจทก์ บริษัทภูเก็ตการเชื้อเพลิง จำกัด กับพวก จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นอ้างประกอบคำวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้เพราะมิใช่เหตุไม่ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ เนื่องจากบุคคลอื่นรับหมายไว้แทนมิได้บอกให้ทราบ จำเลยทั้งสามจึงมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาและมีเหตุอันสมควรให้พิจารณาคดีใหม่

พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share