แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นฝ่ายทำละเมิดทำให้สามีโจทก์และบิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย เมื่อสามีตายภริยาย่อมขาดไร้อุปการะจากสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 และเมื่อบิดาตายบุตรผู้เยาว์ก็ย่อมขาดไร้อุปการะจากบิดาตามมาตรา 1564โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นภริยาและบุตรผู้เยาว์ของผู้ตายจึงย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการขาดไร้อุปการะนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสามโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผู้ตายจะมีฐานะยากดีมีจนอย่างไรเพราะเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายจะพึงได้รับชดใช้ตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน น.ฐ.03264 เป็นของจำเลยที่ 3 มอบให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการนำเข้ามาประกอบการเดินรถรับส่งคนโดยสารระหว่างจังหวัดระนอง – กรุงเทพมหานคร ในนามจำเลยที่ 4 ครั้นวันที่ 14 มกราคม 2519จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพนักงานขับรถของจำเลยที่ 4 ได้ขับรถยนต์ดังกล่าวโดยประมาทด้วยความเร็วเกินกำหนดตรงทางโค้ง พุ่งเข้าชนรถยนต์หมายเลขทะเบียน ช.พ.01449ของนายสมบูรณ์ ฉั่ววิเชียร ซึ่งจอดขวางหน้าอยู่ได้รับความเสียหาย นายสมบูรณ์ฉั่ววิเชียรถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง โจทก์ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรของผู้ตายมีสิทธิได้รับชดใช้ค่าเสียหายดังนี้ คือ
1. ค่าซ่อมรถของนายสมบูรณ์ผู้ตาย เป็นเงิน 27,000 บาท
2. ค่าเสื่อมราคาของรถดังกล่าวเป็นเงิน 30,000 บาท
3. ค่าเช่ารถอื่นมาใช้แทนในระหว่างซ่อมรถ 5 เดือนเป็นเงิน 10,000 บาท
4. ค่าทำศพนายสมบูรณ์ผู้ตายเป็นเงิน 50,000 บาท
5. การตายของนายสมบูรณ์ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นภรรยาขาดรายได้เดือนละ5,000 บาท ขอคิดเพียง 5 ปีเป็นเงิน 300,000 บาท
6. การตายของนายสมบูรณ์ทำให้บุตรผู้เยาว์ของนายสมบูรณ์ซึ่งเกิดกับนางกิมฉุ้นโจทก์รวม 8 คนต้องขาดไร้อุปการะ โจทก์ขอเรียกค่าขาดไร้อุปการะของบุตรแต่ละคนจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะดังนี้
1. นายมนูญ ฉั่ววิเชียร อายุ 19 ปีเป็นเงิน 20,000 บาท
2. นายฟุ้ง ฉั่ววิเชียร อายุ 18 ปี เป็นเงิน 30,000 บาท
3. นายประสพสุข ฉั่ววิเชียร อายุ 16 ปีเป็นเงิน 30,000 บาท
4. เด็กหญิงนงนุช ฉั่ววิเชียร อายุ 14 ปีเป็นเงิน 47,600 บาท
5. เด็กชายชัยเดช ฉั่ววิเชียร อายุ 13 ปีเป็นเงิน 36,000 บาท
6. เด็กชายสุรพล ฉั่ววิเชียร อายุ 12 ปีเป็นเงิน 36,000 บาท
7. เด็กชายชูศักดิ์ ฉั่ววิเชียร อายุ 11 ปีเป็นเงิน 36,000 บาท
8. เด็กชายวัติชัย ฉั่ววิเชียร อายุ 4 ปีเป็นเงิน 50,000 บาท
อย่างไรก็ตามโจทก์ประสงค์เรียกร้องค่าเสียหายทั้งสิ้นดังกล่าวนี้จากจำเลยรวมกันเพียง 300,000 บาท จำเลยทั้งสี่ต้องร่วมกันรับผิดเพราะจำเลยที่ 1 ได้ขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 4 และตามความประสงค์ของจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 300,000 บาทให้โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า โจทก์จะเป็นภรรยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายสมบูรณ์ ฉั่ววิเชียร ผู้ตายหรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่รับรอง จำเลยที่ 1ไม่ได้ขับรถยนต์โดยประมาทดังที่โจทก์ฟ้อง นายสมบูรณ์ผู้ตายต่างหากที่เป็นฝ่ายประมาทขับรถถอยหลังตัดหน้ารถที่จำเลยที่ 1 ขับมาในระยะกระชั้นชิด จำเลยที่ 1ไม่สามารถจะหยุดรถหรือหลบหลีกได้ทัน จึงเกิดชนกันขึ้น ค่าเสียหายรายการต่าง ๆ ที่โจทก์เรียกร้องมานั้นเป็นจำนวนสูงเกินกว่าความเป็นจริง และเป็นคำฟ้องเคลือบคลุมจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นพนักงานขับรถของจำเลยที่ 4 แต่เป็นพนักงานขับรถของจำเลยที่ 2ซึ่งซื้อรถผ่อนส่งมาจากจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 3 ไม่ได้มอบให้จำเลยที่ 2 นำรถคันนี้ไปให้จำเลยที่ 4 ประกอบการเดินรถรับส่งคนโดยสารแต่อย่างใด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 153,450 บาทให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย ให้ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าผู้ตายมิได้มีส่วนประมาทด้วย และในปัญหาที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ผู้ตายมีเงินได้ตามที่แสดงในการยื่นเสียภาษีเงินได้เพียงปีละ22,700 บาท ซึ่งคิดเป็นรายเดือนก็ตกเดือนละ 1,900 บาท ลำพังค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้ตายก็ไม่พออยู่แล้ว ผู้ตายจึงไม่น่าจะมีเงินเหลือพอที่จะอุปการะเลี้ยงดูบุตรภริยาได้นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นฝ่ายละเมิดทำให้สามีโจทก์และบิดาโจทก์ถึงแก่ความตาย เมื่อสามีตายภริยาย่อมขาดไร้อุปการะจากสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 และเมื่อบิดาตายบุตรผู้เยาว์ก็ย่อมขาดไร้อุปการะจากบิดาตามมาตรา 1564 โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นภริยาและบุตรผู้เยาว์ของผู้ตายจึงย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทน เพื่อการขาดไร้อุปการะนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม โดยมิต้องคำนึงว่าผู้ตายจะมีฐานะยากดีมีจนอย่างไร เพราะเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายจะพึงได้รับชดใช้ตามกฎหมายการที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดค่าขาดไร้อุปการะของนางกิมฉุ้นภริยาผู้ตายเป็นเงิน 11,350 บาท ค่าขาดไร้อุปการะของบุตรผู้เยาว์ 8 คนของผู้ตายเป็นเงิน112,600 บาท กับค่าซ่อมรถ 12,500 บาท ค่าเช่ารถมาใช้ระหว่างซ่อม 2,000 บาทและค่าทำศพผู้ตาย 15,000 บาท รวมเป็นค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น 153,450 บาทนั้นเป็นผลดีแก่จำเลยอยู่มากแล้ว
พิพากษายืน