คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2708/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้เช่าซื้อรถยนต์ที่ถูกลักไปจากโจทก์ร่วม และได้เป็นผู้ร่วมเอาประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้แก่จำเลยโจทก์จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมตามสัญญาเช่าซื้อ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมก็ไม่ฟ้องจำเลยให้รับผิด โจทก์ย่อมเสียหาย ถือได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยและมีสิทธิเรียกผู้ให้เช่าซื้อเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยเนื่องจากเป็นผู้รับประโยชน์และมีส่วนได้เสียโดยตรงอันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นจำเป็นที่จะเรียกเข้ามาในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในรายการ 7 ของตารางกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า ‘ยกเว้นการใช้เพิ่มเติม ห้ามรับจ้างหรือให้เช่า’ แต่ขณะที่คนร้ายลักเอารถยนต์ไป รถยนต์จอดอยู่ ณ ที่เก็บมิได้ถูกลักไปในขณะที่ใช้งานรับจ้างอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่อย่างใด การที่โจทก์ใช้รถยนต์รับจ้างมิได้เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถยนต์ถูกคนร้ายลักไป จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญา
ก่อนวันสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์โดยมิได้ส่งสำเนาคำขอของโจทก์ให้แก่จำเลย แต่เมื่อจำเลยทราบความข้อนี้แล้วก็มิได้คัดค้านหรือขอแก้ไขคำให้การเพราะการที่โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีแต่อย่างใดปัญหาว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ มิได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยความสมัครใจเอง โจทก์ร่วมย่อมไม่อาจมีคำขอใดๆ ได้ เมื่อจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำฟ้อง และได้ความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมได้โดยอาศัยคำขอและพยานหลักฐานของโจทก์นั้นเอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากบริษัทสยามเครดิต จำกัด แล้วเอาประกันภัยไว้แก่จำเลยโดยให้ผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์ เมื่อเสร็จจากการใช้งานแล้วได้นำรถยนต์ไปจอดไว้ที่ลานจอดรถยนต์บริเวณโรงภาพยนตร์อุดมสุขเป็นประจำทุกวันโดยล็อกกุญแจประตู คลัตช์และเบรกไว้ด้วย ต่อมาวันเกิดเหตุรถยนต์ถูกคนร้ายลักไปผู้ให้เช่าซื้อไม่ทวงถามค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยและจำเลยก็ไม่ใช้ให้ตามที่ต้องรับผิดเป็นเหตุให้โจทก์ถูกผู้ให้เช่าซื้อฟ้องเรียกค่าเสียหาย ขอบังคับให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการรับประกันภัยแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ตามฟ้องจริงโดยมีข้อตกลงตามรายการ 7 ยกเว้นการใช้เพิ่มเติมว่าห้ามรับจ้างหรือให้เช่าโจทก์นำรถยนต์ดังกล่าวไปทำเป็นรถสองแถวรับจ้างโดยในวันเกิดเหตุว่าจ้างนายเคราเป็นผู้ขับขี่ นายเคราจอดรถโดยมิได้ปิดประตูรถหรือถอดลูกกุญแจไว้ เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงซึ่งเข้าข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย และการที่โจทก์นำรถยนต์ดังกล่าว ไปทำเป็นรถสองแถวรับจ้างโดยทราบเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยดีอยู่แล้วเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง หากจำเลยทราบก่อนย่อมบอกปัดไม่ทำสัญญาหรือควรมีสิทธิเรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้น จำเลยได้บอกเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้วโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้ที่ระบุชื่อเป็นเจ้าของรถตามกรมธรรม์ประกันภัยและโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายอื่นอีก ขอให้ยกฟ้อง

ก่อนวันสืบพยาน บริษัทสยามเครดิต จำกัด ได้เข้ามาเป็นโจทก์ร่วม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามกรมธรรม์ประกันภัยพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ร่วม คำขอนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะมิได้เป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย และไม่มีสิทธิเรียกบริษัทสยามเครดิต จำกัดเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมนั้น เห็นว่า แม้โจทก์จะมิใช่ผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยก็ตาม แต่โจทก์เป็นผู้เอาประกันภัยร่วมด้วย มีสิทธิครอบครองและใช้สอยรถยนต์ที่ถูกลักไป และต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมตามสัญญาเช่าซื้อ เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมและโจทก์ร่วมก็ไม่ฟ้องจำเลยให้รับผิด เนื่องจากโจทก์ต้องรับผิดต่อโจทก์ร่วมอยู่แล้วเช่นนี้โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย ถือได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง และมีสิทธิเรียกบริษัทสยามเครดิต จำกัด เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยเนื่องจากเป็นผู้รับประโยชน์และมีส่วนได้เสียโดยตรงอันเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นเห็นจำเป็นที่จะเรียกให้เข้ามาในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม

จำเลยฎีกาว่า โจทก์นำรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้ไปใช้รับจ้างรับส่งคนโดยสารเป็นการผิดเงื่อนไขตามสัญญาประกันภัย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดนั้น ปรากฏว่า ในรายการ 7 ของตารางกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า “ยกเว้นการใช้เพิ่มเติม ห้ามรับจ้างหรือให้เช่า” เห็นว่าขณะที่คนร้ายลักเอารถยนต์ไป รถยนต์จอดอยู่ ณ ที่เก็บ มิได้ถูกลักไปในขณะที่ใช้งานรับจ้างอันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแต่อย่างใด การที่โจทก์ใช้รถยนต์รับจ้างรับส่งผู้โดยสารมิได้เป็นเหตุโดยตรงที่ทำให้รถยนต์ถูกคนร้ายลักไป จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญา

จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีโดยมิได้ส่งสำเนาคำขอของโจทก์ให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า ก่อนวันสืบพยานศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ เมื่อจำเลยทราบความข้อนี้แล้วก็มิได้คัดค้านหรือขอแก้ไขคำให้การเพราะการที่โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีแต่อย่างใดปัญหาว่าการเรียกโจทก์ร่วมเข้ามาในคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว

จำเลยฎีกาว่า โจทก์ร่วมไม่ได้มีคำขอและมิได้นำสืบถึงการเรียกค่าเสียหายศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมจึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า โจทก์ร่วมถูกเรียกเข้ามาในคดีตามคำขอของโจทก์ มิได้ขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยความสมัครใจเอง โจทก์ร่วมย่อมไม่อาจมีคำขอใด ๆ ได้ เมื่อจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำฟ้องอยู่แล้ว และข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมได้โดยอาศัยคำขอและพยานหลักฐานของโจทก์นั่นเอง

พิพากษายืน

Share