คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีชั้นร้องขัดทรัพย์ ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าทรัพย์ที่ถูกยึดเป็นทรัพย์สินของจำเลย การที่ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าทรัพย์สิน ตามคำร้องเป็นทรัพย์สินที่บริษัทจำเลยได้ขายให้แก่ บริษัท ร. ซึ่งมีผู้ร้องเป็นกรรมการผู้จัดการนั้นเป็นอุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริง จุดประสงค์เพื่อเป็นข้ออ้างนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายที่ผู้ร้องอุทธรณ์ ขึ้นมาเท่านั้น จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54

ย่อยาว

คดีนี้เนื่องมาจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์สินหลายรายการเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึด 8 รายการ มิใช่ของจำเลย หากแต่เป็นของผู้ร้อง โดยผู้ร้องซื้อทรัพย์รายนี้จากจำเลยนานมาแล้ว ขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ดังกล่าว

โจทก์ให้การว่า ทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเป็นของจำเลย มีไว้เพื่อใช้ในกิจการของจำเลย อยู่ในความครอบครองของจำเลยจำเลยใช้สอยอยู่ในปัจจุบัน มิใช่ของผู้ร้อง ขอให้ยกคำร้อง

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ทรัพย์สินคือตู้ห้องเย็น 6 ตู้ และรถยนต์ 2 คันที่ถูกยึดเป็นทรัพย์สินของจำเลย พิพากษาให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วคดีนี้ชั้นร้องขัดทรัพย์ ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า ตู้ห้องเย็น 6 ตู้ รถยนต์ 2 คัน ที่ถูกยึดเป็นทรัพย์สินของจำเลย การที่ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าทรัพย์สินตามคำร้องเป็นทรัพย์สินที่บริษัทจำเลยได้ขายให้แก่บริษัทรีฟรีโก้อีควิปเม้นท์จำกัด ซึ่งมีผู้ร้องเป็นกรรมการผู้จัดการนั้น เห็นว่าเป็นอุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริง จุดประสงค์เพื่อเป็นข้ออ้างนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายที่ผู้ร้องอุทธรณ์ขึ้นมาเท่านั้น กรณีเช่นนี้ถือว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ร้อง

Share