คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2738/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือสัญญากู้เงินที่โจทก์ส่งอ้างเป็นพยานหลักฐานต่อศาลมิได้ขีดฆ่าแสตมป์ จึงใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 เป็นผลให้คดีโจทก์ไม่มีหลักฐานที่จะฟังว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ดังฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้เงินกู้พร้อมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่าไม่ได้กู้เงินโจทก์ตามฟ้อง ความจริงเป็นเรื่องจำเลยขายที่ดินให้โจทก์ จำเลยรับเงินล่วงหน้า 7,000 บาท จากโจทก์ โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ไว้ แต่ลงจำนวนเงินเป็น 10,000 บาท เพื่อป้องกันจำเลยไม่ยอมโอนให้ ต่อมาจำเลยขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์เพื่อโอนให้โจทก์แต่โจทก์ไม่ยอมไปทำการรับโอนกลับนำสัญญากู้มาฟ้อง ทั้งเติมจำนวนเงินเป็น 15,000 บาท จึงไม่มีผลบังคับได้ตามกฎหมาย และสัญญากู้ไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ ไม่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ โจทก์ไม่เคยทวงถามหรือบอกเลิกสัญญา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือสัญญากู้เงินที่โจทก์ส่งอ้างเป็นพยานหลักฐานต่อศาลมิได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ จะใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 เป็นผลให้คดีโจทก์ไม่มีหลักฐานที่จะฟังว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ดังฟ้อง ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในปัญหาข้อเท็จจริงต่อไป

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share