คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายกระโดดลงจากรถยนต์ซึ่งจำเลยเป็นผู้ขับตามทางมาในขณะที่จำเลยหยุดรถเพื่อรับคนโดยสารอยู่ แม้ผู้ตายได้รับอันตรายแก่กาย และถึงแก่ความตายในภายหลัง จำเลยก็หาได้ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ตายจนถึงตายในขณะที่จำเลยกำลังขับรถอยู่นั้นไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 30 ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 ข้อ 6 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์รับจ้างโดยสารและบรรทุกไปตามถนนขณะที่จอดรถรับคนโดยสาร นายมา บุญจิตร กระโดดลงจากรถยนต์ล้มลงศีรษะฟาดพื้นถนนราดยางเป็นอันตรายแก่กาย ศีรษะแตกโลหิตไหลมีบาดเจ็บ แล้วไปตายที่บ้าน จำเลยไม่ไปแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันทีโดยได้นำส่งเจ้าพนักงานสถานีอนามัยทำบาดแผลแล้วพานายมากลับบ้าน แล้วขับรถยนต์รับจ้างต่อไป ไม่ได้ไปแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 30, 68 ประกาศ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 ข้อ 6, 13

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยตามฟ้องโจทก์ไม่เป็นความผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ถึงแม้จำเลยจะเป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุและขับตามทางมาก็ตาม แต่ขณะเกิดเหตุจำเลยได้หยุดรถเพื่อรับคนโดยสารอยู่ นายมา บุญจิตร ผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุโดยกระโดดลงจากรถที่จอดอยู่จนได้รับอันตรายแก่กายและถึงแก่ความตายในภายหลังจำเลยหาได้ก่อให้เกิดอันตรายแก่นายมาจนถึงตายในขณะที่จำเลยกำลังขับรถอยู่นั้นไม่จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษายืน

Share