แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีปืนซึ่งไม่มีเครื่องหมายเลขทะเบียน1 กระบอก กับกระสุน 1 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำเลยใช้ปืนนั้นยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 กับ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และริบปืนกับปลอกกระสุนปืนของกลาง แต่ข้อเท็จจริงในการพิจารณากลับปรากฏว่าปืนและกระสุนปืนเป็นของผู้เสียหายผู้เสียหายควักออกมาจะยิงจำเลย จำเลยเข้าแย่งกระสุนปืนลั่นขึ้นในขณะที่กอดปล้ำแย่งปืนกัน ถูกผู้เสียหายบาดเจ็บ จำเลยจึงไม่มีความผิด แต่ปืนและกระสุนปืนของกลางยังคงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนไม่มีเครื่องหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก กระสุน 1 นัดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจำเลยได้ใช้มีดโต้ของนายหงษ์ พาชีฟันนายหงษ์ พาชี ถูกศีรษะ 1 ที และใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายพงษ์ พาชี อีก 1 ทีถูกที่ท้องโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย แต่แพทย์รักษาไว้ทันท่วงที นายหงษ์ พาชี จึงไม่ตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 มาตรา 3 ริบปืนและปลอกกระสุนปืนของกลาง ส่วนมีดของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 12 ปี ปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางให้ริบ มีดของกลางคืนเจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยใช้มีดฟันและใช้ปืนยิงผู้เสียหายเพื่อป้องกันตัว แต่การที่จำเลยใช้ปืนยิงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ปืนและกระสุนปืนของกลางเป็นของผู้เสียหายพิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลย 2 ปี และให้รอการลงโทษไว้ 3 ปียกฟ้องเฉพาะข้อหาฐานมีปืนและกระสุนปืนของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยยิงไม่เป็นการป้องกันตัว ปืนและกระสุนเป็นของจำเลยขอให้ลงโทษตามฟ้อง จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ก่อนที่ผู้เสียหายจะถูกกระสุนปืนจำเลยเป็นฝ่ายแย่งมีดได้จากผู้เสียหาย แล้วใช้มีดนั้นฟันผู้เสียหายเพื่อป้องกันตัว ผู้เสียหายควักปืนออกมาภายหลังที่จำเลยฟันผู้เสียหายและทิ้งมีดไปแล้ว จำเลยจึงต้องเข้าแย่งปืนจากผู้เสียหายอีกเป็นเหตุให้ปืนลั่นขึ้นในทันที การที่ผู้เสียหายควักปืนออกมายิงจำเลย ปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางจึงเป็นของผู้เสียหาย และการที่ปืนลั่นขึ้นในขณะจำเลยกับผู้เสียหายแย่งปืนกัน ไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานใช้ปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าดังที่โจทก์ฎีกา ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยมานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้อง ปืนและกระสุนปืนของกลางคงให้ริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 มีดของกลางคืนเจ้าของ
