คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลสืบพยานโจทก์ไปแล้วบางส่วน แล้วเลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ที่เหลือพร้อมกับพยานจำเลย โดยนัดสืบไว้สามวันจำเลยได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานเอกสารจากบุคคลภายนอกให้นำส่งศาลในวันที่สาม และขอให้ศาลหมายเรียกพยานบุคคลของจำเลยมาศาลในวันเดียวกันนั้นซึ่งศาลได้ออกหมายเรียกให้แล้ว ถึงวันนัดสืบพยานวันแรกจำเลยไม่มาศาล ศาลอาจดำเนินการสืบพยานไปได้โดยจำเลยเสียสิทธิในการซักค้านพยานโจทก์เอง แม้โจทก์จะแถลงไม่ติดใจสืบพยานในวันแรกนั้นก็จะถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบหาได้ไม่ เพราะศาลได้สั่งนัดไว้อีกถึงสองวันและยังไม่ถึงเวลาตามที่ศาลได้สั่งนัดไว้เอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 มาเป็นผู้จัดการ และจำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันความเสียหาย จำเลยที่ 1 ปฏิบัติงานให้เกิดการเสียหายแก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินที่ทำให้เสียหาย

จำเลยทั้งสองต่อสู้ปฏิเสธความรับผิด

เมื่อได้สืบพยานโจทก์ไปจนถึงวันนัดสืบครั้งสุดท้ายซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์พร้อมกับพยานจำเลย โจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานอีกการสืบพยานต่อไปเป็นหน้าที่ของฝ่ายจำเลย จำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นจึงถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ แล้วพิพากษาในวันเดียวกันนั้นให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินตามฟ้องแก่โจทก์ ถ้าบังคับไม่ได้ ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทน

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้พิจารณาพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะสั่งเลื่อนการพิจารณามาในนัดที่เกิดปัญหานี้ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 23พฤศจิกายน 2513 ว่า ศาลสั่งให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ที่เหลือพร้อมกับพยานจำเลยในวันที่ 24, 25 และ 28 เดือนหน้า ซึ่งหมายถึงเดือนธันวาคม 2513 เมื่อการพิจารณาคดีนี้ได้นัดไว้ถึง 3 วัน วันแรกคือ 24ธันวาคม 2513 จึงควรเป็นวันที่สืบพยานโจทก์ต่อ แม้ฝ่ายจำเลยไม่มาศาลก็อาจดำเนินการสืบพยานไปได้โดยจำเลยเสียสิทธิในการซักค้านพยานโจทก์เอง แต่เมื่อโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานในวันแรกนี้แล้ว จะถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบนั้นหาชอบไม่ เพราะศาลได้สั่งนัดไว้อีก 2 วันซึ่งปรากฏว่าในวันรุ่งขึ้นที่ 25 ธันวาคม 2513 ทนายจำเลยก็ได้มาศาลขอคัดคำพิพากษา และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2513 จำเลยก็ได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานเอกสารจากหลวงพิณพลราษฎร์ ให้นำส่งศาลในวันที่ 28 ธันวาคม 2513 กับขอให้ศาลหมายเรียกพยานจำเลย 2 คนไปศาลในวันเดียวกันนั้น ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานจำเลยตามคำสั่งดังกล่าวแล้วและศาลก็ได้ออกหมายเรียกนายมนัส พุฒธิบูลย์ กับนางรัตนา จารุสวัสดิ์พยานจำเลย ให้มาเป็นพยานที่ศาลในวันที่ 28 ธันวาคม 2513 เวลา8.30 นาฬิกา ดังนี้แล้ว จะถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบอย่างไรได้ในเมื่อยังไม่ถึงเวลาตามที่ศาลได้สั่งนัดไว้เอง ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้ว พิพากษาใหม่ตามรูปคดีจึงชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share