คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1767/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287,289 ในกรณี ที่มีการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาบุคคลภายนอกผู้เป็นเจ้าหนี้ตามบุริมสิทธิหรือสิทธิอื่นๆ แม้มิใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจร้องขอให้บังคับเหนือ ทรัพย์สินนั้นหรือขอให้เอาเงินที่ได้จากการขายหรือ จำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ของตนก่อน เจ้าหนี้อื่นได้แต่การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไป ยึดเอารถยนต์ของโจทก์ที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อไปคืนมาจาก ผู้ร้อง เป็นการใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์มิใช่เป็นการบังคับคดีหรือบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องจะขอรับชำระหนี้ค่าซ่อมและ ค่าดูแลรักษารถในคดีนี้โดยอ้างว่าตนมีสิทธิยึดหน่วงหาได้ ไม่

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสองคืนรถยนต์คันพิพาทที่จำเลยที่ 1 เช่าซื้อไปจากโจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันแล้วผิดสัญญาเช่าซื้อหากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาโจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดรถยนต์คันพิพาทซึ่งจำเลยที่ 1 นำไปซ่อมไว้ที่อู่ของผู้ร้อง

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 นำรถยนต์คันพิพาทไปซ่อมที่อู่ของผู้ร้องและยังค้างชำระค่าซ่อมและค่าดูแลรักษาเป็นเงิน 13,000 บาท ผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันดังกล่าวไว้จนกว่าจะได้รับชำระค่าซ่อมและค่าดูแลรักษาขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องรับชำระหนี้ค่าซ่อมและค่าดูแลรักษาตามสิทธิยึดหน่วงก่อนเจ้าหนี้รายอื่น

โจทก์คัดค้านว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันพิพาท ให้จำเลยที่ 1 เช่าซื้อไปแล้วจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อ โจทก์จึงมีสิทธิติดตามยึดรถกลับคืนมาได้ และโจทก์ได้ใช้สิทธิติตามบังคับคดีเอาทรัพย์สินของโจทก์คืนมาตามคำพิพากษาผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้หรือขอเฉลี่ยหนี้ ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมิได้ครอบครองรถยนต์อยู่จึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงและผู้ร้องก็มิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่มีสิทธิเฉลี่ยหนี้รายนี้ มีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัย รถยนต์คันพิพาทเป็นของโจทก์ที่ให้จำเลยที่ 1 เช่าซื้อไปจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อ ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยคืนรถยนต์คันพิพาทแก่โจทก์ ต่อมาโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดรถยนต์คันพิพาทมาจากอู่ซ่อมรถยนต์ผู้ร้อง ผู้ร้องอ้างว่าจำเลยที่ 1 ยังมิได้ชำระค่าซ่อมและค่าดูแลรักษา ผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์คันดังกล่าวไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ผู้ร้องขอรับชำระหนี้คาซ่อมและค่าดูแลรักษารถดังกล่าวโดยมิได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีคืนรถยนต์คันพิพาทให้กลับมาอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องเพื่อใช้สิทธิยึดหน่วงตามกฎหมายต่อไปตามเดิม เห็นว่าในกรณีที่มีการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา บุคคลภายนอกผู้เป็นเจ้าหนี้ตามบุริมสิทธิหรือสิทธิอื่น ๆ แม้มิใช่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้น หรือขอให้เอาเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษามาชำระหนี้ของตนก่อนเจ้าหนี้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287, 289 แล้วแต่กรณี แต่การที่โจทก์-นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดเอารถยนต์คันพิพาทมาจากผู้ร้อง เป็นการใช้สิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์ มิใช่เป็นการบังคับคดีหรือบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของจำเลยที่ 1ผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา จึงไม่เข้าเกณฑ์ตามบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวข้างต้นในอันที่ผู้ร้องจะขอรับชำระหนี้ค่าซ่อมและค่าดูแลรักษารถที่ตนมีสิทธิยึดหน่วงในคดีนี้ได้ หากผู้ร้องได้รับความเสียหายในเรื่องนี้ประการใด ก็ชอบที่จะฟ้องเรียกร้องจากโจทก์ได้ ผู้ร้องจะยื่นคำขอรับชำระหนี้ ตามสิทธิยึดหน่วงของตนมาในคดีนี้หาได้ไม่

พิพากษายืน

Share