แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาผู้ร้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาคดี คดีถึงที่สุด และโจทก์ ได้ขอหมายบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยแล้วคดีอยู่ในระหว่างการบังคับคดี ฎีกาผู้ร้องจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดี ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอบังคับจำเลยที่ 1 ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี จำเลยที่ 2 ที่ 3และที่ 4 ตามสัญญาค้ำประกัน จำเลยที่ 5, ที่ 6, ที่ 7 และที่ 8 ด้วยมูลหนี้ตามเช็คระหว่างการพิจารณา โจทก์ยื่นคำร้องในเหตุฉุกเฉินขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โอนสิทธิการเช่าห้องเลขที่ 31 ของจำเลยที่ 1 ให้แก่บุคคลภายนอก ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งห้ามมิให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์โอนสิทธิการเช่าดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านและขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งห้ามโอนสิทธิการเช่าดังกล่าวเสีย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้ คดีถึงที่สุด และโจทก์ได้ขอหมายบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยแล้ว คดีอยู่ในระหว่างการบังคับคดีฎีกาผู้ร้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาจึงไม่เป็นประโยชน์แก่คดีอย่างใด ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษาให้ยกฎีกาผู้ร้อง