แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัทจำเลยมีวัตถุประสงค์ประกอบอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมโจทก์เป็นพนักงานขับรถมีหน้าที่ขับรถรับส่งพนักงานฝ่ายบริหารไปกลับระหว่างที่พักกับที่ทำงาน ไม่เกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรม งานของโจทก์จึงเป็นงานอื่นจำเลยกำหนดเวลาทำงานปกติของโจทก์ได้สัปดาห์ละ 54 ชั่วโมงหรือวันละ 9 ชั่วโมงโจทก์ทำงานตั้งแต่เวลา 6.00 นาฬิกา เลิกงาน18.00 นาฬิกาเป็นเวลา 12 ชั่วโมงหักเป็นเวลาพัก 1 ชั่วโมง และเวลาทำงานปกติ 9 ชั่วโมงจำเลยจึงให้โจทก์ทำงานเกินเวลาทำงานปกติไปวันละ 2 ชั่วโมงฉะนั้นค่าล่วงเวลาสำหรับการทำงานในวันทำงานตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา12ชั่วโมงแรกซึ่งมีการทำงานเกินเวลาทำงานปกติอยู่ 2 ชั่วโมงนั้น จำเลยรวมเอาค่าล่วงเวลาไว้ในค่าจ้างปกติด้วย กล่าวคือ เมื่อจำเลยจ่ายค่าจ้างปกติให้โจทก์แล้ว จึงได้จ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับ 2ชั่วโมงดังกล่าวแก่โจทก์ ส่วนระยะเวลา 12 ชั่วโมงหลังเมื่อจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาเป็นสองเท่าของค่าจ้างปกติเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงหนึ่งเท่าครึ่งจึงเป็นการจ่ายค่าล่วงเวลาครบถ้วนแล้วเช่นเดียวกัน
จำเลยให้โจทก์ทำงานในวันหยุดมีกำหนด 12 ชั่วโมง จึงมีการทำงานในวันหยุดเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงานอยู่ 2 ชั่วโมงด้วย จำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาเป็นค่าทำงานในวันหยุดสำหรับ 2ชั่วโมงนี้เพียงสองเท่าของค่าจ้างปกติของวันทำงานเท่านั้นจึงขาดไปหนึ่งเท่า และจะถือว่าจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาหนึ่งเท่าที่ขาดรวมกับเงินเดือนไปแล้วก็ไม่ได้ เพราะในวันหยุดไม่มีการทำงานจึงไม่มีค่าล่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จำเลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดสำหรับ 2 ชั่วโมงที่ยังขาดให้โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสิบคนเป็นลูกจ้างของจำเลย ทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถทำงานตั้งแต่เวลา 6.00 นาฬิกา ถึง 18.00 นาฬิกา รวมทั้งทำงานในวันหยุดกับบางครั้งให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง แต่จำเลยไม่ได้จ่ายเงินค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาให้แก่โจกท์โดยครบถ้วน ขอให้บังคับให้จำเลยจ่ายเงินค่าล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดให้แก่โจทก์ พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า งานที่ให้โจทก์ทำเป็นงานขนส่ง โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา จำเลยได้จ่ายค่าจ้างต่อเดือนให้แก่โจทก์แต่ละคนตามอัตราต่าง ๆ ต่อการทำงานวันละ 12 ชั่วโมง และได้จ่ายถูกต้องตามกฎหมายแล้วจึงไม่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลาค่าทำงานในวันหยุดให้โจทก์อีก
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสิบอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ประกอบอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม โจทก์ทั้งสิบคนเป็นพนักงานขับรถส่งพนักงานบริหารของจำเลย โดยเริ่มขับรถตั้งแต่เวลา 6.00 นาฬิกานำพนักงานบริหารไปส่งที่ทำงานเวลา 8.30 นาฬิกา หลังจากนั้นโจทก์ไม่ได้ทำงานอีกจนถึงเวลา 16.20 นาฬิกาโจทก์จะต้องขับรถส่งพนักงานบริหารกลับบ้านพักและเลิกงานเมื่อเวลาประมาณ 18.00นาฬิกา รวมเป็นเวลาที่โจทก์ทำงานจริง ๆ ไม่เกินวันละ 6 ชั่วโมง จำเลยตกลงจ่ายค่าจ้างปกติเป็นเงินเดือนให้แก่โจทก์ในอัตราที่ให้โจทก์ทำงาน 12 ชั่วโมง โดยรวมเอาค่าล่วงเวลาไว้ในเงินเดือนด้วยในการทำงานในวันหยุดมีกำหนด 12 ชั่วโมง จำเลยจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่โจทก์เท่ากับสองเท่าของค่าจ้าง โดยไม่รวมค่าจ้างปกติ ส่วนเมื่อจำเลยให้โจทก์ทำงานในวันหยุดเกินกว่า 12 ชั่วโมง จำเลยก็จ่ายค่าล่วงเวลาให้เป็นสี่เท่าของค่าจ้างโดยรวมค่าจ้างปกติด้วย ในวันทำงานบางวันจำเลยให้โจทก์ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยจำเลยจ่ายค่าทำงานให้สองเท่าเมื่อรวมค่าจ้างปกติแล้วเป็นสามเท่าของค่าจ้าง โจทก์จึงฟ้องคดีนี้
พิจารณาแล้วโจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับการทำงานของโจทก์ในวันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เป็นจำนวนสี่เท่าของค่าจ้างรวมค่าจ้างปกติ มิใช่สามเท่า ข้อนี้เห็นว่าจำเลยมีวัตถุประสงค์ประกอบอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม โจทก์เป็นพนักงานขับรถมีหน้าที่ขับรถรับส่งพนักงานฝ่ายบริการไปกลับระหว่างที่พักกับที่ทำงาน ไม่เกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมหรือพาณิชยกรรมงานของโจทก์จึงเป็นงานอื่น จำเลยกำหนดเวลาทำงานปกติของโจทก์ได้สัปดาห์ละ 54 ชั่วโมง หรือวันละ 9ชั่วโมง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน2515 ข้อ 1(4) โจทก์ทำงานตั้งแต่เวลา 6.00 นาฬิกา เลิกงานเวลา 18.00 นาฬิกา เป็นเวลา 12 ชั่วโมงหักเป็นเวลาพัก 1 ชั่วโมง และเวลาทำงานปกติ 9 ชั่วโมง จำเลยจึงให้โจทก์ทำงานเกินเวลาทำงานปกติเพียงวันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น หาใช่ 4 ชั่วโมงดังโจทก์อ้างไม่ ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าในวันหนึ่งโจทก์ทำงานเกินเวลา 2 ชั่วโมงจึงชอบแล้วในเรื่องค่าล่วงเวลาสำหรับการทำงานในวันทำงานตลอด 24 ชั่วโมงที่โจทก์อุทธรณ์ได้ความว่า ระยะเวลาทำงาน 12 ชั่วโมงแรกของวันนั้นจำเลยจ่ายค่าจ้างปกติให้โจทก์ส่วน 12 ชั่วโมงต่อมาจำเลยจ่ายให้เป็นค่าล่วงเวลาสองเท่าของค่าจ้างปกติ เห็นว่านายจ้างให้ลูกจ้างทำงานเกินเวลาทำงานปกติต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้ไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในเวลาทำงานปกติสำหรับเวลาที่ทำเกิน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ข้อ 34 ระยะเวลา 12 ชั่วโมงแรกซึ่งมีการทำงานเกินเวลาทำงานปกติอยู่ 2 ชั่วโมงนั้นศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงยุติแล้วว่าจำเลยรวมเอาค่าล่วงเวลาไว้ในค่าจ้างปกติด้วยฉะนั้น เมื่อจำเลยจ่ายค่าจ้างปกติให้โจทก์แล้วจึงได้จ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับ 2 ชั่วโมงดังกล่าวแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว ส่วนระยะเวลา 12 ชั่วโมงหลังเมื่อจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาเป็นสองเท่าของค่าจ้างปกติเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นการจ่ายค่าล่วงเวลาครบถ้วนแล้วเช่นเดียวกัน ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาสำหรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงให้โจทก์ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดแก่โจทก์เป็นจำนวนสี่เท่าของค่าจ้าง รวมค่าจ้างปกติ มิใช่สามเท่า ข้อนี้ศาลแรงงานกลางฟังว่าในการที่จำเลยให้โจทก์ทำงานในวันหยุดมีกำหนด 12 ชั่วโมง จำเลยจ่ายค่าทำงานในวันหยุดให้แก่โจทก์เท่ากับสองเท่าของค่าจ้างโดยไม่รวมค่าจ้างปกติ ส่วนการทำงานเกิน 12 ชั่วโมงไปจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาให้สี่เท่าของค่าจ้างสำหรับชั่วโมงที่ทำงาน ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุดเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงาน นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตราสามเท่าของค่าจ้างในวันทำงานสำหรับชั่วโมงที่ทำเกินเวลาทำงานปกติ ตามข้อ 42 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 สำหรับการทำงานหลังจาก 12 ชั่วโมงแรกนั้นเป็นการทำงานในวันหยุดเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงานซึ่งจำเลยก็จ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว แต่ในส่วนการทำงาน 12 ชั่วโมงแรกนั้นมีการทำงานในวันหยุดเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงานอยู่ 2 ชั่วโมงด้วย ปรากฏว่าจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาเป็นค่าทำงานในวันหยุดสำหรับชั่วโมงนี้เพียงสองเท่าของค่าจ้างปกติสองวันทำงานเท่านั้นจึงขาดไปหนึ่งเท่าและจะถือว่าจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาาหนึ่งเท่าที่ขาดรวมกับเงินเดือนไปแล้วก็ไม่ได้เพราะในวันหยุดไม่มีการทำงานจึงไม่มีค่าล่วงเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จำเลยจึงต้องจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดสำหรับ 2 ชั่วโมงที่ยังขาดให้โจทก์ ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดส่นนี้ให้แก่โจทก์สามเท่าถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า การที่โจทก์ทั้งสิบคนทำงานในวันหยุดครั้งละ 2 ชั่วโมง เฉพาะครั้งที่กล่าวในฟ้องมีการทำงานเกินเวลาทำงานปกติของวันทำงานอยู่ 2 ชั่วโมง ให้จำเลยทั้งสองจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดสำหรับชั่วโมงดังกล่าวเพิ่มอีกหนึ่งเท่าของค่าจ้างในวันทำงานปกติสำหรับชั่วโมงนั้น ๆ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 14 ต่อปี ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง