แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 4 ชวน ล. ไปเก็บผัก ไปถึงที่เกิดเหตุพบจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รออยู่. เมื่อจำเลยที่1 ที่ 2 และที่ 3 จะข่มขืนกระทำชำเรา ล. จำเลยที่ 4 ได้ปลีกตัวออกไปจากที่เกิดเหตุและกลับมาเมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ข่มขืนกระทำชำเรา ล.เสร็จแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยที่ 4 ยังถือไม่ได้ว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ข่มขืนกระทำชำเรา ล.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ว่าได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเลี่ยน ผู้เสียหายซึ่งมิใช่ภริยาของจำเลย โดยจำเลยที่ 4 ใช้อุบายหลอกลวงชวนผู้เสียหายไปเก็บผักแล้วจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 3 ได้ผลักกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่คนละ 1 ครั้ง อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 283, 91 และ 83
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ได้กระทำความผิดตามฟ้องโจทก์ส่วนจำเลยที่ 4 คดีฟังได้แต่เพียงว่า จำเลยที่ 4 ชวนผู้เสียหายไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 รออยู่ก่อนแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3จะข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยที่ 4 ได้ปลีกตัวออกไปจากที่เกิดเหตุและกลับมาเมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยที่ 4 ที่พิจารณาได้ความนี้ ถือไม่ได้ว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 4