แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ก่อนเกิดเหตุทำร้ายผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ถาม จำเลยที่ 2ว่าออกจากบ้านผู้เสียหายแล้วรู้จักทางไหม จำเลยที่ 2 ตอบ ว่ารู้จักและจำเลยที่ 2 เข้าห้องน้ำพร้อมกับจำเลยที่ 1 แล้วออกจากห้องน้ำพร้อมกันทั้งเมื่อผู้เสียหายถูกจำเลยที่ 1 ทำร้ายแล้วร้องขอให้จำเลยที่ 2 ช่วย จำเลยที่ 2 ตอบ ว่าช่วย ไม่ได้นั้น พฤติการณ์ดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมเป็นตัวการในการพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 91, 83, 80 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 11, 12, 62, 81 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ต่อมาในระหว่างพิจารณา จำเลยทั้งสองขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่รับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 91, 83, 80 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ให้จำคุกคนละ 14 ปี ผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11, 12, 62 จำคุกคนละ6 เดือน รวมจำคุกเดือนละ 15 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยคนละ 7 ปี 6 เดือน ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบา
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และให้ลงโทษจำเลยที่ 2ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 62, 81ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยให้ลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้ลงกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 คงให้ลงโทษจำคุกกระทงละ3 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 6 เดือน จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงให้จำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 3 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลดโทษจำเลยที่ 2 ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วย
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ในชั้นนี้มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า”จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 พยายามฆ่าผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่าจำเลยทั้งสองอาศัยอยู่กับผู้เสียหายที่ห้องแถวชั้นเดียวที่เกิดเหตุก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายกับจำเลยที่ 2 ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันจำเลยที่ 2 ขอแยกไปขายโรตีเป็นส่วนตัว และขอให้ผู้เสียหายซื้อรถสำหรับขายโรตีให้ ผู้เสียหายก็ซื้อให้แต่เกิดเหตุคดีนี้เสียก่อนผู้เสียหายจึงยังมิได้มอบรถนั้นให้จำเลยที่ 2 คืนเกิดเหตุในระหว่างที่ผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 เป็นปากเสียงทะเลาะกันเรื่องจำเลยที่ 1นำเงินที่ขายโรตีได้ไปเล่นการพนัน จำเลยที่ 2 ก็มิได้เป็นปากเสียงกับผู้เสียหายด้วย และขณะจำเลยที่ 1 ใช้มีดแทงผู้เสียหายจำเลยที่ 2เพียงแต่ยืนดูอยู่เฉย ๆ หาได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้เสียหายด้วยไม่ การที่จำเลยที่ 1 ถามจำเลยที่ 2 ก่อนทำร้ายผู้เสียหายว่าออกจากบ้านผู้เสียหายแล้วรู้จักทางไหม จำเลยที่ 2 ตอบว่า รู้จักก็ดีก่อนเกิดเหตุทำร้ายกันจำเลยที่ 2 ไปเข้าห้องนำพร้อมจำเลยที่ 1แล้วออกมาจากห้องน้ำพร้อมกันก็ดี ผู้เสียหายถูกจำเลยที่ 1 ทำร้ายแล้วผู้เสียหายขอร้องให้จำเลยที่ 2 ช่วยเหลือจำเลยที่ 2 ตอบว่าช่วยไม่ได้ก็ดี ล้วนเป็นพฤติการณ์ที่ยังไม่เพียงพอให้ฟังว่า จำเลยที่ 2 ร่วมในการพยายามฆ่าผู้เสียหายด้วยทั้งสิ้น ส่วนการที่จำเลยที่ 2 เอาเงินของผู้เสียหายไปตามที่จำเลยที่ 1 สั่งแล้วจำเลยที่ 2หลบหนีไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 นั้นเป็นการกระทำภายหลังจากที่จำเลยที่ 1 แทงทำร้ายผู้เสียหายแล้ว และฟังไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 แทงทำร้ายผู้เสียหายด้วยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นชอบด้วยรูปคดีแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.