คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายตามมาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 หมายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนสมัครรับเลือกตั้งภายในกำหนด 3 เดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้ง หาได้หมายถึงการยื่นรายการค่าใช้จ่ายโดยหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนถูกต้องไม่ เมื่อจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว แม้จำเลยไม่ได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวก็ไม่มีความผิดตามมาตรานี้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ถูกต้องตามความเป็นจริงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได้แก่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ได้จ่ายไปแล้ว ที่ยังค้างชำระอยู่และหลักฐานการจ่ายเงินกับหลักฐานการค้างชำระดังกล่าว ขอให้ลงโทษตราพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา34, 87 พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2526 มาตรา 3, 4 และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งแก่จำเลยมีกำหนด 5 ปี
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 87 ประกอบมาตรา34 ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 3,000 บาท และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 5 ปี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ ภายในกำหนด 3 เดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แต่จำเลยไม่ได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าว โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า แม้จำเลยจะยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลาตามกฏหมาย แต่มิได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายเป็นการยื่นรายการไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ จึงถือได้ว่าจำเลยมิได้ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 โจทก์มิได้ฟ้องโดยตรงว่า จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นเท็จ โจทก์จึงไม่จำต้องนำสืบว่าจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเท็จ เห็นว่าปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์จึงมีเพียงว่า การที่จำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แต่ไม่ได้ยื่นหลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าว จำเลยจะมีความผิดตามโจทก์ฟ้องหรือไม่พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 34 บัญญัติว่า”ภายในกำหนดสามเดือนหลังจากวันประกาศผลการเลือกตั้งผู้สมัครต้องยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ถูกต้องตามความเป็นจริงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งได้แก่
(1) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ได้จ่ายไปแล้ว
(2) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ยังค้างชำระ
(3) หลักฐานการจ่ายเงินตาม (1) และหลักฐานการค้างชำระตาม (2)อย่างน้อยต้องมีรายการแสดงชื่อและที่อยู่ของผู้รับหรือเจ้าหนี้
และมาตรา 87 บัญญัติว่า “ผู้สมัครผู้ใดไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภายในกำหนดตามมาตรา 34 หรือยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นเท็จต้องระวางโทษ…”
ตามบทกฏหมายดังกล่าวไม่มีข้อความใดที่บัญญัติว่าการยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานการจ่ายเงิน หรือมีหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนตามมาตรา 34(3) ให้ถือว่ามิได้ยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวตามมาตรา 87 ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 87 แห่งบทกฏหมายดังกล่าวประการแรกหมายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตนสมัครรับเลือกตั้งภายในกำหนดหาได้หมายความถึงการยื่นรายการค่าใช้จ่ายโดยหลักฐานการจ่ายเงินไม่ครบถ้วนถูกต้องดังที่โจทก์ฎีกาไม่ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยยื่นรายการค่าใช้จ่ายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิแล้วจำเลยย่อมไม่มีความผิดตามฟ้อง”
พิพากษายืน.

Share