คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5249/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ปลูกสร้างบ้านพิพาทบนที่ดินส่วนตัวของตน แม้สามีจะช่วยออกเงินในการปลูกสร้างด้วยถึงหนึ่งในสาม แต่ตามพฤติการณ์เป็นการช่วยเหลือกันฉันสามีภริยา หาใช่เป็นการร่วมลงทุนปลูกบ้านพิพาทด้วยไม่ ดังนี้บ้านพิพาทจึงเป็นส่วนควบของที่ดินและเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 ปลูกสร้างบ้านพิพาทในระหว่างสมรสจึงไม่ทำให้บ้านพิพาทเป็นสินสมรสอันจะเป็นทรัพย์มรดกของสามีครึ่งหนึ่งด้วย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นบุตรของพันตำรวจเอกณัฐพงษ์วนภูมิ กับนางกิ่งแก้ว วนภูมิ ซึ่งหย่าขาดจากกันแล้ว ต่อมาพันตำรวจเอกณัฐพงษ์สมรสกับจำเลยที่ 1 และมีบ้านราคา 150,000 บาทซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างพันตำรวจเอกณัฐพงษ์กับจำเลยที่ 1 ต่อมาพันตำรวจเอกณัฐพงษ์ถึงแก่กรรม กรรมสิทธิ์ในบ้านครึ่งหนึ่งจึงเป็นมรดกตกทอดแก่โจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองและจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกของพันตำรวจเอกณัฐพงษ์ แต่จำเลยที่ 1 อ้างว่าเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 จึงไม่สามารถจัดการทรัพย์มรดกได้ ขอให้พิพากษาว่าบ้านพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างเจ้ามรดกกับจำเลยที่ 1ให้จำเลยที่ 1 แบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง หากแบ่งไม่ได้ให้จำเลยที่ 1ใช้ราคาเป็นเงิน 75,000 บาท หรือนำบ้านพิพาทออกขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน และบังคับให้จำเลยที่ 2 ออกจากบ้านพิพาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า บ้านพิพาทปลูกบนที่ดินสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ปลูกสร้างแทนบ้านหลังเดิมซึ่งจำเลยที่ 1 อนุญาตแล้ว พันตำรวจเอกณัฐพงษ์มิได้ร่วมลงทุนสร้างบ้านพิพาทแต่อย่างใด จึงมิใช่สินสมรสระหว่างจำเลยที่ 1 กับพันตำรวจเอกณัฐพงษ์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า บ้านพิพาทเป็นสินสมรสจึงเป็นมรดกของพันตำรวจเอกณัฐพงษ์ครึ่งหนึ่ง พิพากษาให้จำเลยที่ 1 แบ่งปันบ้านพิพาทให้โจทก์ทั้งสองครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปจัดการมรดกต่อไปโดยให้จำเลยที่ 1 ใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 75,000 บาท หากไม่ยอมชดใช้ให้นำบ้านพิพาทขายทอดตลาดแล้วแบ่งเงินตามส่วนให้จำเลยที่ 2ออกจากบ้านพิพาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 1 ปลูกสร้างบ้านพิพาทแทนบ้านหลังเดิมบนที่ดินอันเป็นสินส่วนตัวของตนเอง แม้ว่าพันตำรวจเอกณัฐพงษ์ผู้เป็นสามีจะออกเงินช่วยเหลือในการสร้างบ้านพิพาทด้วย 1 ใน 3 ส่วน ก็เป็นเรื่องปกติวิสัยที่สามีภริยาย่อมจะต้องให้ความช่วยเหลือแก่กัน หาใช่เป็นกรณีร่วมกันสร้างบ้านพิพาทไม่บ้านพิพาทจึงเป็นส่วนควบของที่ดินและเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 1แม้จะปลูกสร้างในระหว่างสมรสก็ถือไม่ได้ว่าเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474(1) กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทครึ่งหนึ่งจึงไม่เป็นทรัพย์มรดกของพันตำรวจเอกณัฐพงษ์
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share