คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2147/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผลการตรวจพิสูจน์ว่าขนอวัยวะเพศซึ่งตรวจพบที่ช่องคลอดผู้เสียหายไม่ใช่ขนอวัยวะเพศของจำเลยนั้น เป็นเพียงความเห็นของผู้ทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ถึงกับจะทำให้คำเบิกความพยานโจทก์รับฟังไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องอขให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2525 มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นางวิมล บัวแก้ว มารดาเด็กหญิงพิศมัยผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 274 วรรคสอง ให้จำคุก 3 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ความว่าในวันเกิดเหตุผู้เสียหายไปดูโทรทัศน์ที่บ้านจำเลยต่อมาโจทก์ร่วมซึ่งเป็นมารดาได้มาตามให้ผู้เสียหายกลับไปบ้านคดีมีปัญหาวินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ผู้เสียหายเบิกความว่าระหว่างดูโทรทัศน์อยู่นั้น ผู้เสียหายได้หลับไปได้สักครู่ จึงตื่นขึ้นเนื่องจากถูกจำเลยสะกิดที่เอว จำเลยถอดกางเกงที่ผู้เสียหายสวมใส่อยู่โดยเอาขาออกข้างหนึ่งแล้วจำเลยนั่งคร่อมผู้เสียหายไว้และถอดกางเกงของจำเลย ใช้มือจับอวัยวะเพศของจำเลยพยายามใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย แต่ใส่ไม่เข้านานสักครู่โจทก์ร่วมได้ตามผู้เสียหายที่มาบ้านจำเลยพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ตะโกนร้องต่อว่าจำเลยที่ทำกับผู้เสียหาย จำเลยสวมกางเกงแล้วถอยออกไป จากนั้นโจทก์ร่วมได้พาผู้เสียหายกลับไปที่บ้านซึ่งนอกจากผู้เสียหายฝ่ายโจทก์มีโจทก์ร่วมเป็นพยานเบิกความสนับสนุนผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงมีอายุเพียง 8 ขวบ และโจทก์ร่วมเป็นมารดาผู้เสียหายคนทั้งสองคงไม่มีความคิดที่จะแกล้งเบิกความปรักปรำจำเลยด้วยเรื่องที่น่าอับอายเป็นที่เสียหายแก่ผู้เสียหาย เชื่อว่าได้เบิกความไปตามความจริง หลังจากเกิดเหตุแล้วในวันเดียวกันโจทก์ร่วมก็ได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอศรีประจันต์ ซึ่งโจทก์และโจทก์ร่วมมีพันตำรวจตรีบุญฤทธิ์ราศรีเกรียงไกร พนักงานสอบสวนผู้รับแจ้งความเรื่องนี้ เป็นพยานเบิกความประกอบว่า โจทก์ร่วมได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความว่าจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย พยานได้ส่งผู้เสียหายไปให้แพทย์ทำการตรวจร่างกาย ปรากฏผลการตรวจของแพทย์ว่า ที่บริเวณช่องคลอดของผู้เสียหายมีรอยช้ำแดง แสดงผู้เสียหายถูกจำเลยกระทำอนาจารคำเบิกความของผู้เสียหายมีน้ำหนักและเหตุผลน่าเชื่อว่าเป็นความจริงที่ปรากฏตามผลการพิสูจน์ว่าขนอวัยวะเพศที่ตรวจพบที่ช่องคลอดผู้เสียหายไม่ใช่ขนอวัยวะเพศของจำเลยนั้น เห็นว่า เป็นเพียงความเห็นของผู้ทำการตรวจพิสูจน์หลักฐานเท่านั้น ไม่อาจเป็นข้อพิสูจน์ถึงกับจะทำให้คำเบิกความพยานโจทก์และโจทก์ร่วมฟังไม่ได้ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้อง พยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share