คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยอ้างว่า หากจำเลยมีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่แรก คำพิพากษาของศาลชั้นต้นจะต้องเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากจำเลยมิได้เป็นหนี้ตามจำนวนที่ฟ้อง เพราะได้ชำระ เงินต้นและดอกเบี้ยบางส่วนให้แก่โจทก์แล้ว ทั้งการบอกกล่าวบังคับจำนองของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นเป็นการกล่าวอ้างแต่เพียงว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ไม่เกินจำนวนหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงในอันที่จะแสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า หากพิจารณาใหม่แล้ว ศาลจะพิพากษาให้ผิดแผกแตกต่างไปจากที่ได้พิพากษาไปแล้ว ส่วนที่จำเลยอ้างว่าโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่ได้อ้างว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ดังนี้ คำร้อง ของ จำเลยไม่กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 208 จึงไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินกู้และดอกเบี้ย รวม5,311,662 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ถ้าจำเลยไม่ชำระก็ขอให้ศาลสั่งยึดที่ดินที่จำเลยจำนองประกันหนี้ไว้ต่อโจทก์ ออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ หากได้เงินไม่ครบก็ให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยชำระหนี้จนครบ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 4,000,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2526จนถึงวันชำระเสร็จแต่คิดถึงวันฟ้องไม่เกิน 1,311,662 บาท แก่โจทก์หากไม่ชำระก็ให้ยึดที่ดินตามฟ้องพร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ หากได้เงินไม่พอก็ให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยชำระหนี้จนครบ
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยในปัญหาแรกก็คือคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยอ้างว่าหากจำเลยมีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่แรก คำพิพากษาของศาลชั้นต้นจะต้องเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากจำเลยมิได้เป็นหนี้ตามจำนวนที่ฟ้องเพราะได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยบางส่วนให้แก่โจทก์แล้ว ทั้งการบอกกล่าวบังคับจำนองของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เป็นการกล่าวอ้างแต่เพียงว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ไม่เกินจำนวนหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานอ้างอิงในอันที่จะแสดงให้เห็นโดยชัดแจ้งว่า หากพิจารณาใหม่แล้ว ศาลจะพิพากษาให้ผิดแผกแตกต่างไปจากที่ได้พิพากษาไปแล้ว ส่วนที่จำเลยอ้างว่าโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองไม่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยก็ไม่ได้อ้างว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร คำร้องของจำเลยไม่เป็นการกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ฉะนั้น คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จึงไม่มีเหตุที่จะขอให้พิจารณาใหม่…”
พิพากษายืน.

Share