คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3796/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ตามพระราชบัญญัติสุราฯ มาตรา 5 บัญญัติห้ามการทำสุราซึ่งหมายถึง สุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในมาตราเดียวกัน ส่วนมาตรา 32บัญญัติเกี่ยวกับการมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่รู้่ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืน มาตรา 5 ซึ่งหมายถึงสุรากลั่นและสุราแช่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดทั้งหมดในวันเวลาเดียวกัน แสดงว่าจำเลยทำสุราและมีสุราทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ของกลางในคราวเดียวกันดังนี้แม้จำเลยจะทำทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ก็เป็นความผิดกรรมเดียวกัน ขณะเดียวกันการมีสุรากลั่นและสุราแช่ก็เป็นความผิดกรรมเดียวอีกส่วนหนึ่งต่างหากเช่นกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2531 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต กับร่วมกันมีสุรากลั่นปริมาณ 35.300 ลิตรและร่วมกันมีสุ่ราแช่ปริมาณ 100 ลิตร ไว้ในครอบครองโดยรู้ว่าเป็นสุราที่ทำขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายกับทำสุรากลั่นรวมปริมาณ 35.300 ลิตรและร่วมกันทำสุราแช่ปริมาณ 100 ลิตรโดยไม่ได้รับในอนุญาติเจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองไว้พร้อมด้วยภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุรา สุรากลั่นสุราแช่ที่ทำและมีไว้ดังกล่าวเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 4, 5,30, 45 พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2479 มาตรา 4, 6ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 83, 33 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบของกลางทั้งหมด
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานมีภาชนะเครื่องกลั่น ให้จำคุกคนละ 1 เดือน ฐานมีสุรากลั่นกับมีสุราแช่เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทต้องลงโทษฐานมีสุรากลั่นให้ปรับคนละ1,000 บาท ฐานทำสุรากลั่นกับทำสุราแช่เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษฐานทำสุรากลั่นซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกคนละ 2 เดือน เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันต้องเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เป็นจำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ3 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เป็นจำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ 1,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 500 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาสู่ศาลฎีกาว่า ข้อหาฐานทำสุรากลั่นและทำสุราแช่ เป็นความผิดกรรมเดียวหรือกลายกรรม และข้อหาฐานมีสุรากลั่นกับสุราแช่ เป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมเห็นว่า โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดทั้งหมดในวันเวลาเดียวกันแสดงว่าจำเลยทำสุราและมีสุราทั้งสุรากลสั่นและสุราแช่ของกลางในคราวเดียวกัน ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 (ที่แก้ไขแล้ว) มาตรา 5บัญญัติห้ามการทำสุราซึ่งหมายถึงสุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในมาตราเดียวกัน ดังนั้น แม้จำเลยจะทำทั้งสุรากลั่นและสุราแช่ ก็เป็นความผิดกรรมเดียวกัน ในขณะเดียวกัน มาตรา 32 ก็ได้บัญญัติเกี่ยวกับการมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 5 ซึ่งหมายความถึงสุรากลั่นและสุราแช่ การที่สุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในครอบครองจึงเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่ง ซึ่งต้องลงโทษตามมาตรา 32 นั้น”
พิพากษายืน

Share