แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ในการสอบสวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระหนี้ เจ้าหนี้ให้การต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ซ. นำเช็คของจำเลยมาแลกเงินสดไปจากเจ้าหนี้ไม่ได้กล่าวว่าเจ้าหนี้ได้นำเช็คมาฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายก่อนเช็คขาดอายุความ เจ้าหนี้เพิ่งยกข้อเท็จจริงดังกล่าวโต้เถียงในชั้นอุทธรณ์ จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแล้วในชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 หนี้ตามเช็คที่ขาดอายุความซึ่งเป็นหนี้ที่ไม่อาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1)นั้น เจ้าหนี้มีหน้าที่ต้องแสดงให้เห็นว่าสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ดังกล่าวยังไม่ขาดอายุความเพราะเหตุที่นำเช็คมาฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายก่อนแล้ว หาใช่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องสอบสวนถึงข้อเท็จจริงนั้นไม่
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลย(ลูกหนี้) ที่ 1 เด็ดขาดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2528 เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นเงิน 2,440,240 บาท โดยอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นหนี้ตามเช็ค เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ให้บรรดาเจ้าหนี้ลูกหนี้ตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วทำความเห็นส่งสำนวนต่อศาลว่า เห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้ทั้งสิ้นตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1), 107(1) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าหนี้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่เจ้าหนี้ฎีกาว่า เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามเช็คทั้ง 9 ฉบับ นั้น เห็นว่า ตามคำขอรับชำระหนี้เจ้าหนี้กล่าวในคำร้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหนี้เจ้าหนี้อยู่ 2,440,240 บาท เป็นค่าแลกเงินสด เจ้าหนี้ได้ให้การต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่านายซิวย้ง แซ่อึ้ง นำเช็คของจำเลย 9 ฉบับ มาแลกเงินสดไปจากเจ้าหนี้รวมเป็นจำนวนดังกล่าวไม่ได้กล่าวว่าเจ้าหนี้ได้นำเช็ค 9 ฉบับ ข้างต้นมาฟ้องจำเลยที่ 1เป็นคดีล้มละลายต่อศาลชั้นต้นก่อนเช็คดังกล่าวทั้งหมดขาดอายุความเจ้าหนี้เพิ่งยกข้อเท็จจริงดังกล่าวโต้เถียงในชั้นอุทธรณ์จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฉะนั้น การที่เจ้าหนี้ยกข้อเท็จจริงที่ว่าได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีล้มละลายก่อนที่เช็คดังกล่าวขาดอายุความนั้นเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ที่เจ้าหนี้อ้างว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้สอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าวจากเจ้าหนี้ จึงถือว่าไม่ใช่ความบกพร่องของเจ้าหนี้นั้น เห็นว่าขณะที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้นั้น หนี้ตามเช็คทั้ง 9 ฉบับขาดอายุความแล้ว จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1) ดังนั้นเจ้าหนี้จึงมีหน้าที่ต้องแสดงให้เห็นว่าสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ดังกล่าวยังไม่ขาดอายุความ เพราะเหตุที่เจ้าหนี้ได้นำเช็คพิพาททั้ง 9 ฉบับ มาฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีล้มละลายก่อนเช็คดังกล่าวทั้งหมดจะขาดอายุความแล้ว หาใช่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะต้องสอบสวนถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวตามที่เจ้าหนี้ฎีกาไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาเจ้าหนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน