แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าได้ฆ่าผู้ตาย แต่ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธ และนำสืบว่าคำให้การรับสารภาพดังกล่าวเนื่องจากถูกเจ้าพนักงานตำรวจข่มขู่ ซึ่งหมายความว่าจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจหรือตามความเป็นจริง กรณีจึงถือว่าไม่มีคำรับของจำเลยในชั้นจับกุมอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษเพื่อยกขึ้นเป็นข้ออ้างสำหรับลดโทษให้จำเลย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบกับมาตรา 53 จำคุก 33 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 20 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 13 ปี 4 เดือน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าเวลาประมาณ 15 นาฬิกาก่อนเกิดเหตุ จำเลยกับพวกฝ่ายหนึ่งและผู้ตายกับพวกอีกฝ่ายหนึ่งได้เกิดทะเลาะโต้เถียงกันมาก่อนจนถึงขั้นชกต่อยทำร้ายกันโดยไม่ปรากฏว่าเกิดจากความผิดของฝ่ายใดแล้วต่างเลิกรากันไป ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ21 นาฬิกา ก็เกิดการทะเลาะโต้เถียงและชกต่อยทำร้ายกันอีก แล้วจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ดังนั้น สาเหตุจึงเกิดขึ้นจากความผิดของผู้ตายกับพวกอยู่ส่วนหนึ่งด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำคุกจำเลยไว้ 20 ปี จึงเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว แต่ที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 โดยอ้างเหตุว่าจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมซึ่งเป็นประโยชน์แก่การพิจารณานั้นศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมก็ตาม แต่ในชั้นพิจารณา จำเลยได้นำสืบว่า จำเลยให้การรับสารภาพเนื่องจากถูกเจ้าพนักงานตำรวจข่มขู่ซึ่งหมายความว่าจำเลยมิได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจหรือตามความเป็นจริง ดังนี้ กรณีจึงถือว่าไม่มีคำรับของจำเลยในชั้นจับกุมอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษเพื่อยกขึ้นเป็นข้ออ้างสำหรับลดโทษให้จำเลย ฎีกาของโจทก์เฉพาะข้อนี้ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 20 ปี โดยไม่ลดโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์