คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยรับฝากสินค้าเพื่อให้เจ้าของสินค้าไปดำเนินพิธีการทางศุลกากร มิใช่รับฝากจากบุคคลทั่วไปโดยเก็บรักษาสินค้าเพื่อบำเหน็จเป็นการค้าปกติ จำเลยจึงมิใช่นายคลังสินค้าตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 770.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับฝากเก็บรักษาสินค้าที่ส่งทางทะเลเข้าสู่ประเทศไทยเพื่อบำเหน็จตอบแทนเป็นปกติในทางการค้าเพื่อพิธีการทางศุลกากรแต่ผู้เดียว จำเลยได้ตกลงเก็บรักษาสินค้าที่โจทก์รับประกันภัยไว้โดยคิดค่าบำเหน็จตามอัตราที่จำเลยกำหนด ต่อมาเพลิงไหม้คลังสินค้าเป็นเหตุให้สินค้าเสียหายโดยจำเลยไม่ใช้ความระมัดระวังและฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ โจทก์ชำระค่าสินไหมทดแทนให้เจ้าของสินค้าไปแล้ว 5,046,931 บาท ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระแก่โจทก์เสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่มีวัตถุประสงค์รับฝากสินค้าไว้ในโรงพักสินค้าเพื่อบำเหน็จตอบแทนเป็นปกติในทางการค้า แต่เพื่อประโยชน์ในการเสียค่าระวางเรือและเสียภาษีศุลกากรเท่านั้นเพลิงไหม้เพราะอุบัติเหตุและเป็นเหตุสุดวิสัย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘แม้จำเลยจะเป็นผู้รับทำการเก็บรักษาสินค้าก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าเมื่อสินค้ามาจากต่างประเทศโดยทางเรือ จำเลยจะเก็บสินค้าดังกล่าวไว้ที่โรงพักสินค้า โดยถ้าสินค้าเก็บไว้ไม่เกิน 3 วัน จำเลยจะไม่เรียกค่าธรรมเนียม ถ้าเจ้าของสินค้าไม่มารับสินค้าภายใน 3 วัน จำเลยจะคิดค่าธรรมเนียมเป็นรายวันและคิดเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเร่งให้เจ้าของสินค้านำสินค้าออกไป การที่จำเลยรับฝากสินค้าจึงเพียงเพื่อให้เจ้าของสินค้าไปดำเนินพิธีการทางศุลกากร มิใช่รับฝากจากบุคคลทั่วไปโดยเก็บรักษาสินค้าเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติของจำเลย จำเลยจึงไม่ใช่นายคลังสินค้าตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 770จะนำมาตรา 772 ประกอบด้วยมาตรา 616 แห่งประมวลกฎหมายดังกล่าวมาใช้บังคับแก่จำเลยหาได้ไม่…จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังและใช้ฝีมือเพื่อสงวนทรัพย์สินเช่นวิญญูชนจะพึงประพฤติโดยพฤติการณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 659 วรรคสองและวรรคสามแล้ว จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์…’
พิพากษายืน.

Share