แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นโมฆะและให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ภายหลัังได้มี พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2531 และกำหนดให้หมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปจึงเป็นกรณีที่ศาลฎีกาไม่สามารถจะสั่งให้ได้ ส่วนที่ขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ ส. และ บ. นั้น เมื่อศาลชั้นต้นนัดผู้ร้องมาเพื่อสอบถามว่ายังติดใจที่จะให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าวอยู่หรือไม่ ผู้ร้องก็ไม่มาศาลซึ่งถือได้ว่าไไม่ติดใจที่จะให้ศาลมีคำสั่งเช่นนั้นอีกดังนี้ คดีของผู้ร้องจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป ต้องจำหน่ายคดีจากสารบบความ.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
มูลกรณีสืบเนื่องมาจากพรรคก้าวหน้าผู้ร้องที่ 1 และนายคมจิตสุสวัสดิ์ ผู้ร้องที่ 2 ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคก้าวหน้า และเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยโสธรเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2530 ได้ยื่นคำร้องว่า นายวิสันต์เดชเสน ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2 สังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยโสธรนั้นได้ร่วมกับพวกคือ จ่าสิบเอกอนันต์ สุขสันต์ และนายบรรหารศิลปอาชา กระทำการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 มาตรา 32 และ 35 ด้วยการให้เงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้แก่ประชาชนชาวยโสธรเพื่อจูงใจให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่นายวิสันต์ ทั้งยังได้ใช้เงินเพื่อใช้ในการเลือกตั้งเป็นจำนวนเงินถึง 639,890 บาท จึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยโสธรเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2530 เป็นโมฆะมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายวิสันต์ เดชเสน จ่าสิบเอกอนันต์ สุขสันต์ และนายบรรหาร ศิลปอาชา มีกำหนด 10 ปี ด้วย
นายวิสันต์ เดชเสน ผู้ได้รับการเลือกตั้งและผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรยื่นคำร้องคัดค้านว่าการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 13กันยายน 2530 ชอบด้วยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2522 แล้ว คำร้องของผู้ร้องทั้งสองไม่เป็นความจริง
ในระหว่างไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรยื่นคำร้องต่อศาลว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2531 ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2531 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผฌ้แทนราษฎเป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24กรกฎาคม 2531 จึงไม่มีประโยชน์ที่จะไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป ขอให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ
ศาลฎีกาได้สั่งให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาคำร้องของผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรให้ผู้ร้องทั้งสองและให้สอบถามผู้ร้องทั้งสองว่ายังติดใจที่จะให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายวิสันต์ เดชเสน จ่าสิบเอกอนันต์ สุขสันต์ และนายบรรหาร ศิลปอาชา มีกำหนด 10 ปี อีกหรือไม่
ศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ร้องทั้งสอง และได้นัดมาเพื่อสอบถามแล้วปรากฏว่าผู้ร้องทั้งสองไม่มาศาล
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘โดยที่ได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2531 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2531 เช่นนี้ ที่ผู้ร้องทั้งสองขอให้ศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดยโสธรในวันที่ 13 กันยายน 2530ฆเป็นโมฆะ และให้มีการเลือกตั้งใหม่จึงเป็นกรณ๊ที่ศาลฎีกาไม่สามารถจะสั่งให้ได้ ส่วนที่ผู้ร้องทั้งสองขอให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายวิสันต์ เดชเสน จ่าสิบเอกอนันต์ สุขสันต์ และนายบรรหาร ศิลปอาชา มีกำหนด 10 ปี นั้น ก็ปรากฏว่าเมื่อศาลชั้นต้นนัดผู้ร้องมาเพื่อสอบถามว่ายังติดใจที่จะให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าวอยู่หรือไม่ผู้ร้องทั้งสองก็ไม่มาศาลซึ่งถือได้ว่าไม่ติดใจที่จะให้ศาลมีคำสั่งเช่นนั้นอีก คดีของผู้ร้องทั้งสองจึงไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาต่อไป ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ’