คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นฎีกาโดยมิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แทนผู้คัดค้านตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาวางศาลพร้อมกับฎีกา แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาไว้ก็ถือว่าเป็นฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229ประกอบมาตรา 247.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องว่าศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเมื่อวันที่24 มิถุนายน 2520 ผู้ร้องได้สอบสวนลูกหนี้ได้ความว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2518 ลูกหนี้โดยนายชวาล ไพรพิรุณโรจน์ กรรมการผู้จัดการได้โอนขายรถยนต์ยี่ห้อโฮลเด้น รุ่นปี 1967 หมายเลขทะเบียน กท ก 2701ของลูกหนี้ให้นายเชิด ชมพูนุท ซึ่งเป็นพนักงานของลูกหนี้ในราคา21,000 บาท ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2519 นายเชิดผู้รับโอนคนแรกได้ให้นายยี แซ่เจี้ยง นำรถยนต์ดังกล่าวขายให้นายฉลอง ลัดดาพันธ์ เจ้าของอู่รถยนต์ยงการาจ ผู้รับโอนคนที่ 2 ในราคา 20,000 บาท โดยมอบทะเบียนรถยนต์ให้ยึดถือ แต่ไม่ได้มีการจดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ต่อมาประมาณ 20 วัน นายชลอ อินกรัด ผู้รับโอนคนที่ 3ได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวไปราคา 25,000 บาท และได้จดทะเบียนโอนเป็นชื่อของผู้รับโอนคนที่ 3 การที่ลูกหนี้โอนขายรถยนต์ให้นายเชิดผู้รับโอนคนแรก เป็นการกระทำโดยไม่สุจริตและสมยอม ไม่มีค่าตอบแทนในระหว่างระยะเวลา 3 ปี ก่อนมีการขอให้ล้มละลาย ส่วนผู้รับโอนคนที่ 2และคนที่ 3 เป็นบุคคลภายนอก ผู้รับโอนคนที่ 2 ซื้อรถยนต์จากผู้รับโอนคนแรกโดยไม่ได้จดทะเบียนและครอบครองรถเพียง 20 วันก็โอนขายให้ผู้รับโอนคนที่ 3 การโอนขายระหว่างผู้รับโอนคนแรกและคนที่ 2 เป็นการสมยอมกัน ไม่น่าเชื่อว่าซื้อขายกันจริง เป็นการรับโอนโดยไม่สุจริตและไม่มีค่าตอบแทน ส่วนผู้รับโอนคนที่ 3 ผู้ร้องเชื่อว่าได้รับโอนรถยนต์ดังกล่าวโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 116แต่ผู้รับโอนคนแรกและคนที่ 2 ไม่ได้รับความคุ้มครองจึงขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการโอน รถยนต์ยี่ห้อโฮลเด้นหมายเลขทะเบียน กท ก 2701ระหว่างลูกหนี้ (จำเลย) กับนายเชิด ชมพูนุท ผู้รับโอนคนแรก และระหว่างนายเชิด กับนายฉลอง ลัดดาพันธ์ ผู้รับโอนคนที่ 2 ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114, 116 และให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม หากไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ให้นายเชิด ชมพูนุทและนายฉลอง ลัดดาพันธ์ ร่วมกันชดใช้ราคารถยนต์ 21,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันยื่นคำร้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
ผู้รับโอนคนที่ 2 ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้รับโอนคนที่ 2 เป็นบุคคลภายนอกรับโอนรถยนต์ตามคำร้องจากนายเชิด ชมพูนุท ผู้รับโอนคนแรกโดยสุจริต และเสียค่าตอบแทน มิได้รับโอนมาจากลูกหนี้โดยตรงและไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับลูกหนี้และผู้รับโอนคนแรกจึงไม่อาจรู้ได้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอนรถยนต์โฮลเด้น หมายเลขทะเบียน กท ก 2701 ระหว่างบริษัทสินสวัสดิ์ประกันภัย จำกัด ลูกหนี้(จำเลย) กับนายเชิด ชมพูนุท ผู้รับโอนคนแรก และระหว่างนายเชิดชมพูนุท ผู้รับโอนคนแรก กับนายฉลอง ลัดดาพันธ์ ผู้รับโอนคนที่ 2ตามมาตรา 114, 116 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ตามลำดับให้กลับคืนสู่ฐานะเดิม หากไม่สามารถกลับคืนสู่ฐานะเดิมได้ให้นายเชิด ชมพูนุท ผู้รับโอนคนแรก กับนายฉลอง ลัดดาพันธ์ ผู้รับโอนคนที่ 2 ร่วมกันใช้ราคารถยนต์ 21,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากเงินต้นดังกล่าวนับแต่วันยื่นคำร้อง (วันที่21 กันยายน 2527) และให้ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้องผู้ร้องว่าคดีเองจึงไม่กำหนดค่าทนายความให้
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของผู้ร้องเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับผู้คัดค้านให้ผู้ร้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนผู้คัดค้าน โดยกำหนดค่าทนายความรวม 2,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ผู้ร้องยื่นฎีกาโดยมิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนผู้คัดค้านตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาวางศาลพร้อมกับฎีกา ย่อมเป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ประกอบมาตรา 247 แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาผู้ร้องไว้แล้วก็ถือว่าไม่เป็นฎีกาที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาผู้ร้อง

Share