คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5440/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยฎีกาคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาและคำสั่งศาลชั้นต้นให้จำเลยทราบโดยวิธีปิดหมายแต่จำเลยไม่มาฟังคำสั่งปรากฏว่าศาลฎีกาสั่งรับฎีกาของจำเลยบางข้อ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำเลยนำส่งสำเนาฎีกาภายใน 15 วันเพื่อให้โจทก์แก้ ถือได้ว่าจำเลยทราบคำสั่งของศาลชั้นต้นในวันที่ศาลชั้นต้นสั่งแล้ว เมื่อครบกำหนดเวลาที่จำเลยจะต้องนำส่งสำเนาฎีกา จำเลยไม่นำส่งจึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบมาตรา 246,247.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินฐานผิดสัญญาประกันตัวนายโชติช่วง ทรัพย์สิน ไปจากโจทก์ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ศาลฎีกาทำคำสั่งแล้วส่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาและคำสั่งศาลชั้นต้นให้จำเลยที่ 1 ทราบโดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 5 มกราคม2534 ครั้นถึงวันนัดในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2534 จำเลยที่ 1ไม่มาฟังคำสั่งปรากฏว่าศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1บางข้อ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1นำส่งสำเนาฎีกาภายใน 15 วัน เพื่อให้โจทก์แก้กรณีถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ทราบคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2534แล้ว ระยะเวลาสิ้นสุดที่จำเลยที่ 1 จะต้องนำส่งสำเนาฎีกาตามคำสั่งศาลชั้นต้นคือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2534 แต่ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ศาลฉบับลงวันที่ 19 มีนาคม 2534 ว่า จำเลยที่ 1 ไม่มาเสียค่าธรรมเนียมในการส่ง จึงเป็นการทิ้งฟ้องฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ประกอบมาตรา 246, 247
ให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความของศาลฎีกา.

Share