คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3286/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า เจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ตามคำขอของโจทก์แล้ว ภายหลังจำเลยคัดค้านการรังวัดว่ารุกล้ำที่ดินของจำเลยโดยจำเลยมิได้เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง เพื่อกลั่นแกล้งและโต้แย้งสิทธิของโจทก์ กับมีคำขอบังคับให้ยกคำร้องคัดค้านของจำเลย ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์ แต่ผลการคัดค้านของจำเลยที่โต้แย้งสิทธิของโจทก์นั้นฟ้องโจทก์ไม่มีรายละเอียดแจ้งชัดว่าโจทก์ให้เจ้าพนักงานที่ดินทำอะไรให้โจทก์ต่อไป และการกระทำของจำเลยทำให้สิทธิของโจทก์ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างไร และมูลเหตุใดที่โจทก์ได้รับการคุ้มครองสิทธิที่มีอยู่ และคำขอบังคับที่ให้จำเลยกับบริวารออกจากที่ดินคำฟ้องก็มิได้กล่าวถึงสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นเดียวกัน คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม โจทก์ฟ้องว่า จำเลยคัดค้านการรังวัดสอบเขต จึงไม่มีเหตุที่จะต้องทำแผนที่พิพาททั้งรายละเอียดในฎีกาโจทก์อ้างสิทธิเกี่ยวกับที่ดิน จึงเป็นข้อพิพาทในสิทธิเรื่องที่ดิน ไม่ตรงกับสภาพข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยในคำฟ้อง การทำแผนที่เพื่อให้ได้รับรองสิทธิของโจทก์ในที่ดิน จึงมิใช่รายละเอียดที่จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณาอันจะสนับสนุนว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 4059 และยื่นขอรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ไปรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์โดยถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย จำเลยคัดค้านว่าโจทก์รังวัดสอบเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย ความจริงจำเลยมิได้เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงกับที่ดินโจทก์ จำเลยไปคัดค้านต่อเจ้าพนักงานที่ดินเป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ยกคำร้องคัดค้านของจำเลย ให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยให้การว่า ฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และโจทก์อาศัยอะไรเป็นหลักแห่งข้อหา โจทก์ต้องเสียหายเนื้อที่ดินเป็นจำนวนเท่าใด จำเลยไม่อาจเข้าใจข้อหาได้จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม จำเลยมีสิทธิครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 5 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2498 โดยได้รับมรดกจากตาของจำเลย โจทก์รังวัดสอบเขต มีเจตนารุกล้ำที่ดินของจำเลยโดยไม่แจ้งให้จำเลยทราบ โจทก์รังวัดนอกแนวเขตที่ดินตามโฉนดของโจทก์เป็นการใช้สิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์ขอทำการสอบเขตรังวัดที่ดินของโจทก์ เจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการรังวัดสอบเขตให้โจทก์เรียบร้อยแล้ว ต่อมาจำเลยได้คัดค้านการรังวัดว่ารุกล้ำที่ดินของจำเลย โดยจำเลยมิได้เป็นผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียง เพื่อกลั่นแกล้งและโต้แย้งสิทธิของโจทก์กับมีคำขอบังคับ 2 ประการคือให้ยกคำร้องขอคัดค้านของจำเลย กับให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินโจทก์ ตามฟ้องดังกล่าวโจทก์ประสงค์ให้เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดสอบเขตที่ดินให้โจทก์ เจ้าพนักงานที่ดินได้จัดการให้โจทก์ไปตามความประสงค์แล้ว ภายหลังจำเลยได้คัดค้านว่าโจทก์รังวัดสอบเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลย ข้อหาตามฟ้องที่จำเลยโต้แย้งสิทธิโจทก์ในการรังวัดสอบเขตได้ดำเนินการไปเสร็จสิ้นแล้ว จึงไม่มีประโยชน์อะไรกับคดีโจทก์อีกต่อไป ส่วนผลการคัดค้านของจำเลยที่โต้แย้งสิทธิโจทก์และเสียหายกับโจทก์ ตามฟ้องบรรยายว่าเจ้าพนักงานที่ดินไม่สามารถดำเนินการต่อไป ไม่มีรายละเอียดแจ้งชัดว่าโจทก์ให้เจ้าพนักงานที่ดินทำอะไรให้โจทก์ต่อไป และการกระทำของจำเลยทำให้สิทธิของโจทก์ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างไร และมีมูลเหตุใดที่โจทก์ได้รับการคุ้มครองสิทธิที่มีอยู่ คำฟ้องโจทก์จึงไม่มีสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักในการฟ้องคดีแจ้งชัดส่วนคำขอบังคับอีกประการหนึ่งที่ให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินโจทก์คำฟ้องก็ไม่ได้กล่าวถึงสภาพแห่งข้อหา และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเลย การบรรยายฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการรังวัดสอบเขตที่ดิน ไม่เป็นข้ออ้างที่จะเป็นเหตุให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดิน เพราะไม่มีรายละเอียดว่าจำเลยบุกรุก อยู่อาศัยหรือครอบครองที่ดินโจทก์ส่วนไหนถึงจะต้องขับไล่ คำฟ้องโจทก์จึงไม่แจ้งชัดเช่นเดียวกัน จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม นอกจากนี้เมื่อพิจารณาฎีกาโจทก์ที่อ้างเหตุว่า ถ้าศาลให้ทำแผนที่พิพาทแล้วจะทำให้ได้ความชัดแจ้งที่จะวินิจฉัยปัญหานั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องว่าจำเลยคัดค้านการรังวัดสอบเขต จึงไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องทำแผนที่พิพาท ถ้าเป็นการโต้แย้งสิทธิในที่ดินว่าใครมีเพียงใด ตรงไหน ก็อาจต้องทำแผนที่พิพาท ซึ่งเป็นสภาพแห่งข้อหา ข้ออ้างที่อาศัยและคำขอบังคับในเรื่องอื่น มิใช่เรื่องจำเลยคัดค้านการรังวัดสอบเขต ทั้งรายละเอียดในฎีกาโจทก์อ้างสิทธิเกี่ยวกับที่ดิน จึงเป็นข้อพิพาทในสิทธิเรื่องที่ดิน ไม่ตรงกับสภาพข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยในคำฟ้อง การทำแผนที่พิพาทเพื่อให้ได้รับรองสิทธิของโจทก์ในที่ดิน จึงมิใช่รายละเอียดที่จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณาอันจะสนับสนุนว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share